Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการกําหนดคุณสมบัติของผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยศึกษากรณีการกําหนดลักษณะต้องห้ามในการเข้าสู่อาชีพของผู้เคยต้องคําพิพากษาที่กําหนดไว้ในพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 จากการศึกษาพบว่า กฎหมายฉบับนี้กําหนดลักษณะต้องห้ามของผู้เคยต้องคําพิพากษา ในการขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ เพื่อป้องกันการประกอบธุรกิจแอบแฝงในการดําเนินกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และให้เกิดความน่าเชื่อถือจากผู้รับบริการกรมราชทัณฑ์ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุม ดูแล แก้ไขฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง เล็งเห็นว่า การฝึกอบรมวิชาชีพนวดแผนไทย เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีใช้ทุนในการประกอบอาชีพน้อย และเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องขัง จึงได้มีการส่งเสริมให้มีการฝึกวิชาชีพตามหลักสูตรมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ จนผู้ต้องขังที่ผ่านการฝึกอบรมได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองเพื่อนําไปใช้ในการประกอบอาชีพภายหลังจากได้รับการปล่อยตัวแต่ในความเป็นจริงพบว่า ผู้ต้องขังหรือผู้เคยต้องคําพิพากษาไม่สามารถนําความรู้ ความสามารถ หรือทักษะฝีมือที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปประกอบอาชีพได้ เนื่องจากถูกจํากัดสิทธิในการเข้าสู่อาชีพตามกฎหมายฉบับนี้ ส่งผลให้ผู้ต้องขังหรือผู้เคยต้องคําพิพากษาไม่สามารถประกอบอาชีพได้ อย่างเหมาะสมและเป็นการปิดโอกาสของผู้เคยต้องคําพิพากษาให้สามารถกลับมาดํารงชีวิตในสังคมได้ อย่างเป็นปกติสุข จากสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยจึงได้เสนอแนะให้มีการยกเลิกการกําหนดลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับฐานความผิดของผู้เคยต้องคําพิพากษาและเงื่อนไขระยะเวลาเมื่อพ้นโทษ และเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้รับบริการ เห็นควรให้ผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวหรือผู้เคยต้องคําพิพากษาที่ได้รับการฝึกวิชาชีพจนผ่านหลักสูตรและได้รับใบประกาศนียบัตรแล้ว และพ้นโทษมาแล้วยัง ไม่เกิน 1 ปี ให้ผ่านการตรวจสอบหรือคุมประพฤติไว้โดยหน่วยงานของรัฐ เพื่อเป็นการรับรองพฤติกรรมของผู้พ้นโทษและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สังคม