DSpace Repository

ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความกลัวการหกล้มของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน

Show simple item record

dc.contributor.advisor นัยนา พิพัฒน์วณิชชา
dc.contributor.advisor พรชัย จูลเมตต์
dc.contributor.author ธนภรณ์ พิพัฒน์วณิชชา
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์
dc.date.accessioned 2023-05-12T06:12:56Z
dc.date.available 2023-05-12T06:12:56Z
dc.date.issued 2561
dc.identifier.uri https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/7863
dc.description วิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
dc.description.abstract ความกลัวการหกล้มในผู้สูงอายุพบได้บ่อยและส่งผลถึงการจำกัดการปฏิบัติกิจกรรมประจำวันและการควบคุมโรคเบาหวานในผู้สูงอายุการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยายความสัมพันธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความกลัวการหกล้มและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความกลัวการหกล้มของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นและการสุ่มอย่างง่ายจากผู้สูงอายุที่มารับบริการในคลินิกโรคเบาหวาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี จำนวน 115 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนบุคคลแบบประเมินความกลัวการหกล้มฉบับภาษาไทย แบบสัมภาษณ์การรับรู้ภาวะสุขภาพ แบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุของไทย การทดสอบการก้าวเดินและการทรงตัวของผู้สูงอายุเครื่องมือทดสอบการรับความรู้สึกบริเวณฝ่าเท้าและแผ่นวัดสายตาระบบตัวเลขวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์โดยการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สเปียร์แมน แรงค์ ออเดอร์และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พอยท์ไบซีเรียล ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความกลัวการหกล้ม (ร้อยละ 53.90) การรับรู้ภาวะสุขภาพมีความสัมพันธ์ทางลบในระดับปานกลาง (rs= -.354, p< .01) ภาวะปลายประสาทเสื่อม มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำ (rpb= .294, p= .001) และความสามารถในการก้าวเดิน และการทรงตัวมีความสัมพันธ์ทางลบในระดับต่ำ (rs= -.251, p= .003) กับความกลัวการหกล้มของผู้สูงอายุโรคเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ภาวะซึมเศร้า และความสามารถในการมองเห็นมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับความกลัวการหกล้มของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (rs= .221, p= .009; rpb= .205, p= .028) ส่วนเพศอายุ และประสบการณ์การหกล้ม มีความสัมพันธ์กับความกลัวการหกล้มของผู้สูงอายุโรคเบาหวานอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 บุคลากรด้านสุขภาพควรให้ความสำคัญกับความกลัวการหกล้มของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่มีการรับรู้ภาวะสุขภาพไม่ดีมีภาวะปลายประสาทเสื่อม มีการทรงตัวไม่ดีมีภาวะซึมเศร้า และความสามารถในการมองเห็นบกพร่องโดยสามารถนำผลการวิจัยไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาแนวปฏิบัติหรือโปรแกรมการพยาบาลเพื่อลดความกลัวการหกล้ม หรือส่งเสริมความมั่นใจในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุโรคเบาหวานต่อไป
dc.language.iso th
dc.publisher คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.rights มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.subject เบาหวานในผู้สูงอายุ
dc.subject Health Sciences
dc.subject มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ
dc.subject การหกล้มในผู้สูงอายุ
dc.subject ผู้ป่วยสูงอายุ
dc.title ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความกลัวการหกล้มของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน
dc.title.alternative Fctors relted to fer of flling mong older dults with dibetes mellitus
dc.type วิทยานิพนธ์/ Thesis
dc.description.abstractalternative Fear of falling is a common and potentially daily activity restriction and diabetic control among older adults. This research is descriptive correlation research aimed to study fear of falling and factors related to fear of falling among older adults with diabetes mellitus. The sample of 115 older adults with diabetes mellitus who visited diabetes mellitus clinic at subdistrict hospitals in Muang district, Chonburi province were randomly selected by stratified random sampling and simple random sampling. The research instruments included the demographic questionnaire and health status perception interview, the Thai Modified Falls Efficacy Scale [TMFES], Thai Geriatric Depression Scale [TGDS], the Timed up & Go test [TUG], Monofilament and Snellen chart. Analyze relationships by Spearman rank order correlation coefficient and Point -biserial correlation coefficient. The results revealed that the majority of the sample had fear of falling (53.90%). Health status perception was moderate negatively correlated (rs= -.354, p< .01) whereas diabetic peripheral neuropathy was low positively correlated (rpb= .294, p= .001) and gait and balance control was low negatively correlated (rs= -.251, p= .003) with fear of falling among older adults with diabetes mellitus at level of .01. Depression and visual acuity were low positively correlated (rs= .221,p= .009; rpb= .205, p= .028) with fear of falling among older adults with diabetes mellitus at level of .05. However, sex, age and fall experience were not statistically significant relate to fear of falling among older adults with diabetes mellitus at level of .05. (rpb= -.139, p= .069; rs= -.103, p= .137; rs= .087, p= .357). Healthcare providers should emphasize fear of falling among older adults with diabetes mellitus, especially who have low perception health status, diabetic peripheral neuropathy, gait and balance ability impairment, depression and visual acuity impairment. The findings can be used as the basis for establishing clinical nursing practice guidelines or interventions to reduce fear of falling or promote confidence of daily activity among this group
dc.degree.level ปริญญาโท
dc.degree.discipline การพยาบาลผู้สูงอายุ
dc.degree.name พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต
dc.degree.grantor มหาวิทยาลัยบูรพา


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account