Abstract:
โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายต้องการการรักษาตลอดชีวิตเพื่อชะลอการดำเนินของโรค และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้สูงอายที่เป็นโรคนี้ต้องเผชิญและปรับตัวให้สามารถดูแลตนเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงต้องใช้ความยืดหยุ่นในการเผชิญกับการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความยืดหยุ่นและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความยืดหยุ่นของผู้สูงอายุโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย จำนวน 97 ราย ซึ่งได้จากการสุ่มอย่างง่ายจากผู้สูงอายุโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่มารับการตรวจรักษาที่คลินิกโรคไตเรื้อรัง และหน่วยไตเทียม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สระแก้ว เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความหวัง แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตน แบบสอบถามการมองโลกในแง่ดี แบบสอบถาม สัมพันธภาพในครอบครัว และแบบสอบถามความยืดหยุ่น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายมีความยืดหยุ่นอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าคะแนนเฉลี่ย 68.30 (SD = 8.04) โดยปัจจัยความหวัง สัมพันธภาพในครอบครัว การรับรู้ สมรรถนะแห่งตน และการมองโลกในแง่ดี มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความยืดหยุ่นของผู้สูงอายุ โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r= .536, p< .01; r= .449, p= .01; r= .349, p< .01; r= .289, p< .01 ตามลำดับ) ผลการศึกษาครั้งนี้เสนอแนะว่า พยาบาลและบุคลากรทางสุขภาพควรส่งเสริมความยืดหยุ่นสำหรับผู้สูงอายุโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยการสร้างเสริมความหวัง สัมพันธภาพในครอบครัวการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการมองโลกในแง่ดีเพื่อให้ผู้สูงอายุโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป