ความต้านทานการแทรกซึมของคลอไรด์ของคอนกรีตภายใต้สิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทย

ณัฐพล วงษ์วาร

dc.contributor.advisor	ทวีชัย สำราญวานิช
dc.contributor.author	ณัฐพล วงษ์วาร
dc.contributor.other	มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.date.accessioned	2023-05-12T03:58:59Z
dc.date.available	2023-05-12T03:58:59Z
dc.date.issued	2561
dc.identifier.uri	https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/7470
dc.description	วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
dc.description.abstract	งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของคอนกรีตที่เผชิญสิ่งแวดล้อมทะเล 4 ปีและ 5 ปีโดยพิจารณาผลกระทบของชนิดปูนซีเมนต์อัตราส่วนวัสดุประสาน และอัตราส่วนน้ำต่อ วัสดุประสานของคอนกรีตต่อความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ของคอนกรีต พร้อมทั้งศึกษาการเกิดสนิมของเหล็กเสริมในคอนกรีต และกำลังอัดคอนกรีตด้วยเพื่อมุ่งหาส่วนผสมคอนกรีตที่คงทนต่อการแทรกซึมคลอไรด์และป้องกันการเกิดสนิมของเหล็กเสริม จากผลการศึกษาพบว่า คอนกรีตที่ใช้ปูนซีเมนต์ปอซโซลาน เถ้าลอยแทนที่บางส่วนของปูนซีเมนต์และปูนซีเมนต์ตะกรันถลุงเหล็กมีความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ในสิ่งแวดล้อมทะเลดีที่สุด โดยมีสัมประสิทธิ์การแพร่คลอไรด์ที่ต่ำมากและเหล็กเสริมภายในคอนกรีตเป็นสนิมน้อย คอนกรีตที่ใช้เถ้าลอยแทนที่ปูนซีเมนต์บางส่วนร้อยละ 60 และมีอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสาน 0.40 มีการเกิดสนิมของเหล็กเสริมต่ำมาก คอนกรีตที่ใช้ผงหินปูนแทนที่ปูนซีเมนต์บางส่วนมีความสามารถต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์และกำลังอัดน้อยกว่าคอนกรีตที่ใชเถ้าลอยและผงหินปูนแทนที่ปูนซีเมนต์บางส่วน คอนกรีตที่ใช้เถ้าลอยร้อยละ 35 และผงหินปูนร้อยละ 5 แทนที่ วัสดุประสาน มีความต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ดีที่สุด โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การแพร่คลอไรด์ต่ำที่สุด และมีการเกิดสนิมของเหล็กน้อยที่สุด และมีค่ากำลังอัดคอนกรีตที่ดีคอนกรีตที่มีส่วนผสมของเถ้าลอยมีขนาดโพรงช่องว่างเฉลี่ยลดลงและความพรุนเพิ่มขึ้น แต่มีความสามารถต้านทานการแทรกซึมคลอไรด์ได้กว่าคอนกรีตซีเมนต์ล้วน
dc.language.iso	th
dc.publisher	คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.rights	มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.subject	มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
dc.subject	คลอไรด์
dc.subject	คอนกรีต -- การดูดซึมและการดูดซับ
dc.subject	คอนกรีต -- การไหลซึมผ่าน
dc.title	ความต้านทานการแทรกซึมของคลอไรด์ของคอนกรีตภายใต้สิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทย
dc.title.alternative	Chloride penetrtion resistnce of concrete under mrine environment of Thilnd
dc.type	วิทยานิพนธ์/ Thesis
dc.description.abstractalternative	This research aims to study chloride penetration resistance of concrete exposed to marine environment for 4 and 5 years. The effects of cement type, fly ash and limestone powder to binder ratio and water to binder ratio of concrete were considered in this study. In addition, corrosion of steel embedded in concrete and compressive strength of concrete were also studied. The objective is to determine durable concrete mixed for resisting chloride penetration and protecting steel from corrosion. From the study results, it was found that concretes containing pozzolan cement, partial replacement of cement with fly ash and slag cement have the best resistance to chloride penetration in the marine environment. The chloride diffusion coefficient in concrete is very low and corrosion of steel in concrete is less. Concrete containing 60% fly ash replacement in concrete and water to binder ratio of 0.40 has very low corrosion of steel in concrete. Concrete containing partial replacement of cement with limestone powder has low chloride penetration resistance and compressive strength than concrete containing partial replacement of cement with fly ash and limestone powder. Concrete containing 35% fly ash and 5% limestone powder replacement of cement has the best chloride penetration resistance and lowest chloride diffusion coefficient with the least of corrosion of steel and good compression strength. Concrete with fly ash has smaller average pore diameter and higher porosity, but has better chloride penetration resistance than cement concrete.
dc.degree.level	ปริญญาโท
dc.degree.discipline	วิศวกรรมโยธา
dc.degree.name	วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
dc.degree.grantor	มหาวิทยาลัยบูรพา