Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 จำแนกตาม ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ที่ตั้งโรงเรียน และขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ในครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 335 คน โดยใช้เกณฑ์กำหนดจำนวนกลุ่มตัวอย่างของเครจซี่ และมอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970, pp. 607-610) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับของลิเคอร์ท ได้ค่าจำแนกอำนาจรายข้อระหว่าง .36-.85 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .87 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ทดสอบสมมติฐานค่าที (t-test) และความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ซึ่งผู้วิจัย ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ ผลการวิจัยพบว่า 1. การเปรียบเทียบระดับการบริหารโรงเรียนโดยการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหาร โรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ที่ตั้งโรงเรียน และขนาดโรงเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ความคิดเห็นของครูต่อการบริหารโรงเรียนตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหาร สถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากคะแนนมากไปหาน้อย คือ หลักคุณธรรม หลักนิติธรรม หลักความรับผิดชอบ หลักความคุ้มค่า หลักความมีส่วนร่วม และหลักความโปร่งใส 3. ข้อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารโรงเรียน มีดังต่อไปนี้ มีการจัดตั้งระบบการบริหารที่ดีโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสอดคล้องกับนโยบาย เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน ของโรงเรียน มีมาตรการผลักดันให้มีการปฏิบัติตามนโยบายของโรงเรียน มีการกำกับติดตามและ ประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้เป็นระยะ