Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา ในเขตจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง จำนวน 300 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster rando sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบทดสอบความรู้เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ แบบทดสอบทัศคติและการปฏิบัติเป็นแบบมาตราส่วนให้ค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุชภาพผู้สูงอายุของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับสูง นักเรียนหญิงและนักเรียนชายมีความรู้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001
2. ทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับปานกลาง นักเรียนหญิงและนักเรียนชายมีทัศนคติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. การปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับดี นักเรียนหญิงและนักเรียนชายมีการปฏิบัติที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4. ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติเกี่ยวกับ การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ความรู้และทัศนคติ มีความสัมพันธ์กันในทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001