Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบบรรยาย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับสมรรถนะหลักของบุคลากรครู ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อสมรรถนะหลักของบุคลากรกับสมรรถนะหลักของบุคลากรครู ปัจจัยมีผลต่อ สมรรถนะหลักของบุคลากรครู และสร้างสมการพยากรณ์สมรรถนะหลักของบุคลากรครูที่ปฏิบัติงานในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 297 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วย 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 ปัจจัยที่ศึกษา ประกอบด้วย ปัจจัยด้านจิตลักษณะ และสมรรถนะหลักของบุคลากรครู ลักษณะข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ เมื่อตรวจสอบ คุณภาพเครื่องมือ พบว่า ด้านปัจจัยด้านจิตลักษณะและด้านสมรรถนะหลักของบุคลากรครู คำนวณค่าอำนาจจำแนก ได้ระหว่าง .40-.80 และความเชื่อมั่นของเครื่องมือ เท่ากับ .92 และ .91 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ละการวิเคราะห์ ถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับสมรรถนะหลักของบุคลากรครูที่ปฏิบัติงานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก 2. ปัจจัยที่มีผลต่อสมรรถนะหลักของบุคลากรครู กับสมรรถนะหลักของบุคลากรครูที่ปฏิบัติงาน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 มีค่าความสัมพันธ์ทางบวก ระดับมากที่สุด = .927*(rxy = .927) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ปัจจัยที่มีผลต่อสมรรถนะหลักของบุคลากรครูที่ปฏิบัติงานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก 4. ปัจจัยด้าน การจูงใจเพื่อควบคุมตนเอง (X5) ทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพครู (X4) และการได้รับ การพัฒนาความรู้ (X1) สามารถร่วมกันพยากรณ์ สมรรถนะหลักของบุคลากรครูที่ปฏิบัติงานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 ได้ร้อยละ 86.8 (R2 = .868, F = .211, p < .05) สามารถเขียนเป็นสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบได้ดังนี้ = 2.205 + .456(การจูงใจเพื่อควบคุมตนเอง) + .395(ทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพครู) + .116(การได้รับการพัฒนาความรู้) สามารถเขียนเป็นสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน = .270(การจูงใจเพื่อควบคุมตนเอง) + .381(ทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพครู) + .100 (การได้รับการพัฒนาความรู้)