Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความต้องการในการพัฒนาตนเองของข้าราชการ สำนักงานตรวจสอบภายในทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และเปรียบเทียบความต้องการในการพัฒนาตนเอง 4 ด้าน คือด้านปฐมนิเทศ ด้านการฝึกอบรม ด้านการศึกษา และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลได้แก่ เพศ อายุ วุฒิการศึกษา รายได้ ชั้นยศ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน และลักษณะงาน ประชากรที่ใช้ศึกษาเป็นข้าราชการ สำนักงานตรวจสอบภายในทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ปฏิบัติงานอยู่จริง จำนวน 100 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ค่าสถิติที (t-test) สถิติค่าความแปรปรวนทางเดียว One-way ANOVA และสถิติ Welch และ Brown-forsythe ทดสอบความแตกต่างรายคู่ ด้วยวิธีของ Scheffe’ หรือ LSD หรือ Dunnett’s T3
ผลการวิจัย พบว่า ข้าราชการ สำนักงานตรวจสอบภายในทหาร กองทัพไทย มีความต้องการในการพัฒนาตนเอง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านอยู่ในระดับมากเช่นกันเรียงลำดับความต้องการจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการฝึกอบรม ด้านการปฐมนิเทศ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านการศึกษา เมื่อเปรียบเทียบความต้องการในการพัฒนาตนเองกับปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ข้าราชการ ที่มี เพศ อายุ วุฒิการศึกษา และระยะเวลาการปฏิบัติงาน แตกต่างกันมีระดับความต้องการในการพัฒนาตนเองไม่แตกต่างกัน ข้าราชการที่มีรายได้แตกต่างกันมีระดับความต้องการในการพัฒนาตนเองด้านปฐมนิเทศด้านการฝึกอบรม และด้านการศึกษาแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้าราชการที่มีชั้นยศแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการพัฒนาตนเองด้านการปฐมนิเทศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และข้าราชการที่มีลักษณะงานแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการพัฒนาตนเองด้านการปฐมนิเทศแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ผู้บังคับบัญชาควรสนับสนุนให้ข้าราชการที่บรรจุใหม่ โอนย้ายมาใหม่และหรือผู้ที่ได้รับการปรับย้ายเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ได้รับการปฐมนิเทศ มีหลักสูตรการฝึกอบรมเป็นประจำทุก ๆ ปี ส่งเสริมการสึกษา ดูงานหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะหลักสูตรเฉพาะทาง และนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ เพื่อการประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ