Abstract:
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการรับสัมผัสสาร Methyl Ethyl Ketone (MEK) และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสมรรถภาพการมองเห็นของพนักงานฝ่ายผลิตในโรงงานผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จำนวนตัวอย่างทั้งหมดในการศึกษามี 162 คน แบ่งเป็นพนักงานแผนกประกอบ 110 คนและแผนกขัดแต่ง 52 คน การศึกษามีการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตรวจวัดระดับความเข้มข้นของ MEK ในปัสสาวะหลังเลิกงาน และวัดสมรรถภาพการมองเห็น (ตาบอดสีและลานสายตา) จากการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นพนักงานหญิง ร้อยละ 95.1 อายุเฉลี่ย 30.7 ปี ร้อยละ 96.9 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ร้อยละ 32.7 ไม่เคยสูบบุหรี่ ร้อยละ 96.9 ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 93.2 ระยะเวลานอนหลับเฉลี่ย 5.8 ชั่วโมงต่อวัน ทำงานในตำแหน่งปัจจุบันมาน้อยกว่า 7 ปี ร้อยละ 91.4 ไม่มีโรคประจำตัวและยาที่รับประทานประจำ ร้อยละ 87.0 และ 90.7 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลโดยสวมใส่ร้อยละ 76-100 ของเวลาทำงาน ร้อยละ 91.4 มีระดับความเข้มข้นของ MEK ในปัสสาวะหลังเลิกงานเฉลี่ย 0.43 ± 0.24 mg/ L สำหรับ สมรรถภาพการมองเห็น พบว่า อาการเกี่ยวกับสายตาที่เป็นตลอดเวลาได้แก่ อาการแสบตา/ เจ็บตา ตาอักเสบ/ แดงบวม มองเห็นภาพซ้อนและเห็นสีรุ้งรอบดวงไฟ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการตาบอดสีร้อยละ 72.2 และไม่มีความผิดปกติของลานสายตา ร้อยละ 98.8 เมื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่าง ๆ กับสมรรถภาพการมองเห็น พบว่า อายุกับอาการเกี่ยวกับสายตามีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p = 0.034) และสถานภาพกับอาการเกี่ยวกับสายตามีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p = 0.041) แต่สำหรับปัจจัยด้านอื่น ๆ กับสมรรถภาพการมองเห็น พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กัน แต่อย่างไรก็ตามจากผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์เป็นข้อมูล สำหรับการควบคุมและลดผลกระทบต่อสุขภาพของสาร MEK ในอนาคตได้