Abstract:
มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคอันตรายร้ายแรง แต่ละปีฆ่าชีวิตสตรีเป็นจำนวนมาก ทำให้สตรีมีความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับโรคดังกล่าว การตรวจคัดกรองเป็นมาตรการหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาได้ จึงมีโครงการรณรงค์ตรวจคัดกรองสตรีกลุ่มเสี่ยงเป็นประจำทุกปี ดังนั้น การศึกษาครั้งนี้จึงต้องการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มเสี่ยงของอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี โดยใช้ตามรูปแบบการประเมินของสเตค เก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารทางราชการ สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างกับ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 14 คน ที่รับผิดชอบโดยตรง เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 48 คน และส่งแบบสอบถามให้สตรีกลุ่มเสี่ยง 180 คนตอบ ข้อมูลทั้งหมดนำมาสรุปผลด้วยการ วิเคราะห์เอกสาร แจกแจงความถี่ คำนวณร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบผลสำเร็จของโครงการด้วย t-test กลุ่มเดียว การติดตามประเมินผล พบว่า ปี 2559 การตรวจคัดกรองของอำเภอประจันตคามมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 24 แห่ง งบประมาณที่ใช้ประมาณ 2 แสนบาท สตรีกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจคัดกรอง 2,537 คน หรือร้อยละ 30.2 พบสตรีกลุ่มเสี่ยงมีผลตรวจผิดปกติและส่งต่อ 6 คน ผลเชิงพฤติกรรมสุขภาพ สตรีกลุ่มเสี่ยงมีแรงจูงใจในการป้องกันโรคโดยรวมร้อยละ 85.5 มีการคาดหวังความสามารถตนเองมากสุด รองลงมา การรับรู้ความรุนแรง ความคาดหวังผลลัพธ์และการรับรู้โอกาสเสี่ยง ร้อยละ 87.8, 87.7, 86.9 และ 80.0 ตามลำดับ เข้าถึงบริการโดยรวม ร้อยละ 85.4 ความเพียงพอของบริการมากที่สุด รองลงมา ความสะดวกและสิ่งอำนวยความสะดวก เข้าถึงแหล่งบริการ ยอมรับคุณภาพบริการ และความสามารถจ่ายค่าบริการร้อยละ 87.7, 86.9, 86.8, 86.6 และ 79.1 ตามลำดับ และผลความพึงพอใจต่อการรณรงค์ตรวจคัดกรอง พบว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านพอใจมากที่สุด รองลงมา ผู้นำชุมชน สตรีกลุ่มเสี่ยง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ร้อยละ 88.9, 85.0, 80.4, 80.2 และ 72.4 ตามลำดับ โดยแรงจูงใจในการป้องกัน การเข้าถึงบริการ และความพึงพอใจต่อการดำเนินงานการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกของอำเภอประจันตคามประสบความสำเร็จได้ผลมากกว่าร้อยละ 80.0 เว้นเพียงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีความพึงพอใจไม่ถึงร้อยละ 80.0 ดังนี้ ในปีต่อไป จึงควรรณรงค์ให้สตรีกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจคัดกรองเพิ่มขึ้นและเพิ่มแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ