Abstract:
ความจำเป็นทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ย่า/ยาย ต้องรับผิดชอบทำบทบาทเลี้ยงดูหลาน หลักแทนพ่อ/ แม่เพิ่มมากขึ้น การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเครียดในการทำบทบาทแม่ของย่า /ยายที่เลี้ยงดูหลาน และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดในการทำบทบาท แม่ของย่า /ยายที่เลี้ยงดูหลานวัยขวบปีแรกกลุ่มตัวอย่างคัดเลือกแบบหลายขั้นตอน คือย่า /ยายที่ทำ บทบาทหลักแทนพ่อ แม่เป็นผู้เลี้ยงดูหลานวัยขวบปีแรกเป็นระยะเวลา 1 เดือนขึ้นไป ในจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดสกลนคร จำนวน 100 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลแบบสอบถามความเครียดในการทำบทบาทแม่ของย่า /ยายที่เลี้ยงดูหลาน แบบสอบถามความรู้สึกเป็นภาระในการดูแลแบบสอบถามความรู้สึกมีคุณค่าต่อตนเองในการทำบทบาท และแบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคมของครอบครัว วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า ย่า/ยายที่เลี้ยงดูหลานวัยขวบปีแรก มีความเครียดในภาพรวมอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 36.00 (n=36) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับความเครียดในการทำบทบาทแม่ของย่า /ยายที่เลี้ยงดูหลาน ได้แก่ ความรู้สึกเป็นภาระด้านการเงิน (r=.249, p< .01) และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว (r = -.314, p < .05) ความรู้สึกเป็นภาระด้านกิจวัตรประจำวัน (r =.306, p<.01) และความรู้สึกเป็น ภาระด้านสุขภาพ (r=.350, p < .01) และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับความเครียดในการทำบทบาทแม่ของย่า /ยายที่เลี้ยงดูหลาน ได้แก่ ความรู้สึกมีคุณค่าต่อตนเองในการทำบทบาท (r = -.266, p < .01) และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว (r = -.314, p < .01) ผลการวิจัยครั้งนี้ให้ข้อเสนอแนะว่า พยาบาลที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการดูแลย่า /ยายที่เลี้ยงดูหลาน ควรมีการประเมินความเครียดในการทำบทบาทของย่า /ยายอย่างต่อเนื่อง และให้การพยาบาลเพื่อส่งเสริมการสนับสนุนทางสังคมและลดภาระด้านต่าง ๆ ให้แก่ย่า/ยาย