Abstract:
การผ่าตัดคลอดส่งผลต่อการรับรู้ความมีคุณค่าในตนเองซึ่งพยาบาลควรให้ความสำคัญ การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการรับรู้ความมีคุณค่าในตนเองของหญิงที่มารับการผ่าตัดคลอดระหว่างกลุ่มทดลองที่ใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลอย่างมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับการปฏิบัติพยาบาลตามปกติ และเปรียบเทียบการรับรู้ ความมีคุณค่าในตนเองของหญิงที่มาเข้ารับผ่าตัดคลอดในกลุ่มทดลองก่อนและหลังการใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลอย่างมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่าง คือ หญิงที่มารับการผ่าตัดคลอดในโรงพยาบาลชลบุรี ที่มีคุณสมบัติตามกำหนด จำนวน 40 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 20 คน และกลุ่มควบคุม 20 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามการรับรู้ความมีคุณค่าในตนเอง ได้ค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ .79 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบไคสแควร์ การทดสอบของฟิชเชอร์ และทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า หญิงที่มารับการผ่าตัดคลอดกลุ่มทดลองมีการรับรู้ความมีคุณค่าในตนเองภายหลังการทดลองสูงกว่าหญิงที่มารับการผ่าตัดคลอดในกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หญิงที่มารับการผ่าตัดคลอดในกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้ความมีคุณค่าในตนเองภายหลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัยครั้งนี้เสนอแนะให้ผู้บริหารทางการพยาบาลควรสนับสนุนให้พยาบาลวิชาชีพ ประยุกต์ใช้รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาลอย่างมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพในการดูแลหญิงที่มารับการผ่าตัดคลอดเพื่อให้มีการรับรู้ความมีคุณค่าในตนเองเพิ่มมากขึ้น