Abstract:
การวิจัยแบบบรรยายหาความสัมพันธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปี 4 หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก จำนวน 156 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบประเมินสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพแบบประเมินทัศนคติต่อวิชาชีพ และแบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียรสัน ผลการวิจัยพบว่า สมรรถนะพยาบาลวิชาชีพโดยรวมของนักศึกษาพยาบาลอยู่ในระดับสูง (M = 3.72, S.D. = 0.36) สมรรถนะพยาบาลวิชาชีพระดับสูง ได้แก่ ด้านคุณลักษณะทางวิชาชีพ (ค่าเฉลี่ย = 4.24, S.D. = 0.60) ด้านจริยธรรม จรรยาบรรณและกฎหมาย (ค่าเฉลี่ย = 4.20, S.D. = 0.55) และด้านสังคม (ค่าเฉลี่ย = 3.98, S.D. = 0.71) สมรรถนะพยาบาลวิชาชีพระดับปานกลาง ได้แก่ ด้านภาวะผู้นำ การจัดการและการพัฒนาคุณภาพ (ค่าเฉลี่ย = 3.65, S.D. = 0.51) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ค่าเฉลี่ย = 3.64, S.D. = 0.52) ด้านการสื่อสารและสัมพันธภาพ (ค่าเฉลี่ย = 3.63, S.D. = 0.47) ด้านการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ค่าเฉลี่ย = 3.62, S.D. = 0.45) และด้านวิชาการและการวิจัย (ค่าเฉลี่ย = 3.39, S.D. = 0.47) ทัศนคติต่อวิชาชีพอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.26, S.D. = 0.46) ความฉลาดทางอารมณ์อยู่ในระดับปกติ (ค่าเฉลี่ย = 166.59, S.D. = 13.37) ทัศนคติต่อวิชาชีพ และความฉลาดทางอารมณ์มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง (r = .415, p < .01 และ r = .323, p < .01) กับสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่มีความสัมพันธ์กับสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพ ผลการศึกษานี้เสนอแนะว่า ผู้บริหารทางการศึกษาพยาบาลและผู้บริหารทางการพยาบาลควรใช้ข้อค้นพบนี้ในการพัฒนาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพ ทัศนคติต่อวิชาชีพ และความฉลาดทางอารมณ์ ของนิสิตและพยาบาลจบใหม่