Abstract:
มะเขือเทศราชินีเป็นพืชชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร นิยมใช้รับประทานสด และ
แปรรูปเป็นผลไม้แช่อิ่ม สามารถนำมาใช้เป็นพืชสมุนไพรแต่ยังไม่มีการรายงานผลในการรักษาเป็นที่
ชัดเจน การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณสมบัติของมะเขือเทศต่อความสามารถในการต้าน
สารอนุมูลอิสระและการออกฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพ ผลการสกัดโดยใช้น้ำปราศจากเชื้อและเอทานอลเป็น
ตัวทำละลาย พบว่า เมื่อสกัดมะเขือเทศราชินีด้วยน้ำปราศจากเชื้อที่ความเข้มข้นน้ำหนักสด 50 กรัม
ต่อมิลลิลิตร มีปริมาณวิตามินซีเท่ากับ 0.32 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร และเมื่อสกัดด้วยเอทานอลที่ความ
เข้มข้นน้ำหนักสด 1.67 กรัมต่อมิลลิลิตร มีปริมาณวิตามินเอเท่ากับ 0.009 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร สาร
สกัดที่ได้นำมาศึกษาฤทธิ์การต้านเชื้อจุลชีพ จำนวน 6 สายพันธุ์ ได้แก่ Staphylococcus aureus,
Streptococcus pyogenes, Escherichia coli, Pseudomonas aeruginosa, Candida albican
และ Candida tropicalis ด้วยวิธี broth dilution test พบว่า ค่าความเข้มข้นต่ำสุดในการยับยั้ง
เชื้อ (Minimal Inhibitory Concentration; MIC) ของสารสกัดจากมะเขือเทศราชินีด้วยน้ำ
ปราศจากเชื้อ แสดงฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S. pyogenes เท่ากับ 25 กรัมต่อมิลลิลิตร สารสกัดมะเขือเทศ
ราชินีด้วยเอทานอลแสดงฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S. pyogenes และ Ps. aeruginosa มีค่า MIC เท่ากับ 0.7
และ 0.6 กรัมต่อมิลลิลิตร ตามลำดับ ในขณะที่วิตามินซีบริสุทธิ์สามารถยับยั้งเชื้อจุลชีพได้ทั้ง 6 ชนิด
โดยมี ค่า MIC ยับยั้งเชื้อ S. aureus, S. pyogenes และ Ps. aeruginosa เท่ากับ 3×10-5 มิลลิกรัม
ต่อมิลลิลิตร, เชื้อ E. coli มีค่า MIC เท่ากับ 4.5×10-5 มิลลิกรัมต่อมิลิลิตร, เชื้อ C. albican และ C.
tropicalis มีค่า MIC เท่ากับ 5×10-5 มิลลิกรัมต่อมิลิลิตร ตามลำดับ ส่วนสารละลาย β-carotene
ไม่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพได้ เมื่อทำการวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี
FRAP (ferric reducing-antioxidant power) สารสกัดจากมะเขือเทศราชินีที่สกัดด้วยเอทานอลมี
ค่า FRAP Value เท่ากับ 61.00±7.19 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งมีความสามารถในการรีดิวซ์เฟอริกได้
ดีกว่าสารสกัดด้วยน้ำปราศจากเชื้อซึ่งมีค่า FRAP value เท่ากับ 40.09±3.81 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร
ผลของ DPPH (free radical scavenging) assay พบว่าสารสกัดมะเขือเทศที่สกัดด้วยเอทานอล
สามารถยับยั้งอนุมูลอิสระได้ร้อยละ 50 ที่ค่า 0.55 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้ง
อนุมูลอิสระได้ดีกว่าสารสกัดด้วยน้ำที่มีความสามารถที่ยับยั้งอนุมูลอิสระได้ร้อยละ 50 ที่ค่า 2.33
ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ผลการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดมะเขือเทศด้วยเอทานอลสามารถออกฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพและต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าเมื่อสกัดด้วยน้ำ ซึ่งความรู้เหล่านี้สามารถนำไปสู่การพัฒนา ปรับปรุง และแปรรูปอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น