Abstract:
งานวิจัยส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างตัวแบบรู้จำกิจกรรม ด้วยข้อมูลกระแสเชิงเวลา
จากตัวรับรู้แอคเซเลอโรมิเตอร์ของสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ข้อมือ จะใช้วิธีสร้างตัวแบบรู้จำ
กิจกรรมเฉพาะบุคคล โดยจำเป็นต้องเก็บข้อมูลการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้ตามยะระเวลาที่
กำหนด จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้ไปสร้างตัวแบบรู้จำกิจกรรมด้วยวิธีการจำแนกข้อมูลวิธีการต่าง ๆ ซึ่ง
จะได้ตัวแบบรู้จำกิจกรรมที่เหมาะสมกับผู้ใช้คนคนนั้น แต่อย่างไรก็ตามการสร้างตัวแบบรู้จำกิจกรรม
ลักษณะนี้อาจเป็นการรบกวนผู้ใช้มากเกินไป เนื่องจากผู้ใช้จะต้องเสียเวลาเก็บข้อมูลการทำกิจกรรม
ด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากผู้ใช้ทำกิจกรรมไม่ครบทุกกิจกรรมหรือทำไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด
การรู้จำกิจกรรมก็อาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้
จากโครงการวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากงบประมาณเงินรายได้จากเงินอุดหนุนรัฐบาล
(งบประมาณแผ่นดิน) ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 มหาวิทยาลัยบูรพา ผ่านสำนักงาน
คณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ ที่ผ่านมา ผู้วิจัยได้นำเสนอวิธีการสร้างตัวแบบรู้จำกิจกรรมไม่เฉพาะ
บุคคล 2 วิธี ได้แก่ 1) วิธี “การรู้จำกิจกรรมแบบไม่เฉพาะบุคคลบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน” หรือ “ไอ
ซาร์” และ 2) วิธี “ปรับปรุงการรู้จำกิจกรรมแบบไม่เฉพาะบุคคลบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน” หรือ “ไอ
ซาร์พลัส” ซึ่งมีประสิทธิภาพด้านเวลา และความถูกต้อง ในการรู้จำกิจกรรมจากกระแสตัวรับรู้แอค
เซเลอโรมิเตอร์ของสมาร์ทโฟนในโครงการวิจัยนี้เป็นโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งจะทำการทดลองวิจัยโดยใช้อุปกรณ์ที่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ข้อมือ หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ซึ่งกระแสของข้อมูลที่จะใช้ในการรู้จำกิจกรรมจะมีความซับซ้อนมากกว่าข้อมูลที่มาจากสมาร์ทโฟน รวมถึงการใช้ข้อมูลจากตัวรับรู้มากกว่า 1 ตัวเพื่อเพิ่มความถูกต้องในการทำนายกิจกรรมให้มากขึ้น ซึ่งจากการออกแบบวิธีการ
ดำเนินงานผู้วิจัยได้นำเสนอวิธีการ ใหม่นี้ว่า “Smartwatch based Physical Activity
Recognition” หรือเรียกว่า “S-PAR” และผลการทดลองเมื่อทำการเปรียบเทียบกับงานวิจัยอื่นโดย
ใช้ข้อมูลจริงจากฐานข้อมูลสาธารณะ พบว่าวิธีการ S-PAR มีผลความถูกต้องดีกว่าวิธีการที่นำมา
เปรียบเทียบ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์และพัฒนาต่อยอดเป็นแอปพลิเคชันต่อไปได้