Abstract:
ที่มาและความสำคัญ: โลหิตจางเป็นปัญหาสาธารณสุขที่พบได้ทั่วไปในผู้สูงอายุและมีความชุกสูงในทุกภูมิภาคของประเทศไทย สาเหตุของภาวะโลหิตจางใน
ผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย คือโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและโลหิตจางจากโรคเรื้อรัง อย่างไรก็ตามในพื้นที่ที่มีความชุกของธาลัสซีเมียข้อมูลความชุกของ
ภาวะโลหิตจางและปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางในผู้สูงอายุยังคงมีน้อย
วัตถุประสงค์ : เพื่อหาความชุกของภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
และโลหิตจางจากธาลัสซีเมีย และศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลหิตจาง
ในผู้สูงอายุภาคตะวันออกของประเทศไทย
วิธีการศึกษา: ทำการศึกษาในผู้สูงอายุในชุมชนจังหวัดชลบุรี จำนวน 370 คน
ที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจสอบพารามิเตอร์ของเซลล์เม็ดเลือดแดงโปรตีน C-reactive ซีรัมเฟอร์ริติน ชนิดของฮีโมโกบิน (Hb typing) และตรวจวิเคราะห์ยีนแฝงธาลัสซีเมีย
ผลการศึกษา: ผลการศึกษาในผู้สูงอายุ จำนวน 370 คน จำแนกเป็นเพศชาย จำนวน 78 คน (21.08%) และเพศหญิง จำนวน 292 คน (78.92%) ประเมินภาวะโลหิตจางตามเกณฑ์วินิจฉัยของ WHO พบว่ามีผู้สูงอายุ จำนวน 131 คน (35.41%) มีภาวะโลหิตจาง โดยพบว่า 43.55% เป็นผู้สูงอายุเพศชาย และ 33.22% เป็นผู้สูงอายุเพศหญิง เมื่อพิจารณาตามอายุพบว่า ภาวะโลหิตจางเพิ่มขึ้นจาก 32.17%, 36.61% ถึง 57.14% ในกลุ่มอายุ 60-69 ปี, 70-79 ปีและ > 80 ปีตามลำดับ ศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุของภาวะโลหิตจางที่พบในผู้สูงอายุ
พบว่ามีภาวะโลหิตจางจากธาตุเหล็ก 3.05%, ธาลัสซีเมีย 25.95%, ภาวะโลหิตจางจากโรคเรื้อรัง 17.56% และภาวะโลหิตจางที่ไม่ทราบสาเหตุ 35.11% นอกจากนี้ยังพบปัจจัยร่วมที่เป็นสาเหตุให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะโลหิตจางถึง 18.32%
สรุป: การศึกษาครั้งนี้ใช้เป็นข้อมูลภาวะโลหิตจางในผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกรวมถึงปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโลหิตจางและลักษณะทางโลหิตวิทยา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการควบคุมและดูแลผู้สูงอายุโลหิตจาง
อย่างเหมาะสมต่อไป