Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) อิทธิพลของการร่วมแรงร่วมใจในโซ่อุปทานที่มีต่อประสิทธิภาพของการจัดการโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม จังหวัดสระแก้ว (2) ระดับประสิทธิภาพของการจัดการโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม จังหวัดสระแก้ว และ (3) อิทธิพลของประสิทธิภาพของการจัดการโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม จังหวัดสระแก้วที่มีต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันเพื่อรองรับการเข้าสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหาในโซ่อุปทานอุตสาหกรรมนมพร้อมดื่มของสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำนวน 36 คน เก็บข้อมูลด้วยการใช้วิธีทอดแบบ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึกวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การสกัดปัจจัยแบบ Principal Component Analysis การวิเคราะห์ Multiple Linear Regression การวิเคราะห์ Multinomial Logistics Regression และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า (1) การร่วมแรงร่วมใจในโซ่อุปทาน ประกอบด้วย ความได้เปรียบในการจัดซื้อจัดหา ความยืดหยุ่นของโซ่อุปทาน ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า-ผู้จัดหาปัจจัยการผลิต การแบ่งปันข้อมูลภายในสมาชิกโซ่อุปทาน ความเชื่อมโยงภายในโซ่อุปทาน และความไว้วางใจในสมาชิกโซ่อุปทาน มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของการจัดการโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม จังหวัดสระแก้ว อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 (2) ประสิทธิภาพของการจัดการโซ่อุปทานผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม จังหวัดสระแก้ว ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.78 อยู่ในระดับมีประสิทธิภาพสูง และ (3) ประสิทธิภาพของการจัดการโซ่อุปทานอุตสาหกรรมนมพร้อมดื่ม จังหวัดสระแก้ว ด้านความน่าเชื่อถือของโซ่อุปทานมีอิทธิพลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันเพื่อรองรับ การเข้าสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว ด้านนวัตกรรมการผลิตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 ด้วยโอกาส ที่จะเกิดเหตุการณ์นี้มีค่าเท่ากับ 5.683 เท่า และประสิทธิภาพของการจัดการโซ่อุปทานอุตสาหกรรมนม พร้อมดื่มจังหวะสระแก้วด้านค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนมีอิทธิพลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันเพื่อ รองรับการเข้าสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ 0.01 ด้วยโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์นี้มีค่าเท่ากับ 5.819 เท่า