DSpace Repository

ปัจจัยทำนายพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดจันทบุรี

Show simple item record

dc.contributor.author นวลพรรณ อิศโร
dc.contributor.author ชนัญชิดาดุษฎี ทูลศิริ
dc.contributor.author รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์
dc.date.accessioned 2019-03-25T09:23:28Z
dc.date.available 2019-03-25T09:23:28Z
dc.date.issued 2559
dc.identifier.uri http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3426
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และปัจจัยทำนายพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดจันทบุรี กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 470 คน ซึ่งได้มาด้วยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศแบบสอบถามการรับรู้ความสามารถแห่งตนในการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ แบบสอบถามการเข้าถึงสถานบันเทิง แบบสอบถามการเข้าถึงสื่อทางเพศ แบบสอบถามการควบคุมกำกับของครอบครัว แบบสอบถามพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเพื่อนสนิท และแบบสอบถามพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาคเท่ากับ .82, .73, .72, .86, .76, .71 และ .75 ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา และสถิติสมการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอนผลการวิจัยพบว่ากลุ่ม ตัวอย่างมีพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์อยู่ในระดับปกติ (ร้อยละ 73.62) ปัจจัยด้านการเข้าถึงสื่อทางเพศ (β = -.405) การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ (β = .092)พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเพื่อนสนิท (β = -.155) การ ควบคุมกำกับของครอบครัว (β = .112) และทัศนคติเกี่ยว กับเรื่องเพศ (β = .088) สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยร่วมกัน ทำนายได้ร้อยละ 29.8 (R2 = .298, F(5, 464) = 39.339, p <.001) ซึ่งสร้างเป็นสมการทำนายในรูปคะแนนดิบได้ดังนี้ พฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ = 53.450 - .497 (การเข้าถึงสื่อทางเพศ) + .100 (การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ) -.297 (พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเพื่อนสนิท) +.247 (การควบคุมกำกับของครอบครัว) + .117 (ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่อง เพศ) จากผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาล ชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษาควรพัฒนากิจกรรมหรือโปรแกรมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ ของนักเรียนมัธยม ศึกษาตอนต้น ด้วยการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตน ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศ และการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ โดยเน้นการควบคุมกำกับของครอบครัว th_TH
dc.language.iso th th_TH
dc.publisher คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา th
dc.subject ผู้สูงอายุ - - สุขภาพจิต th_TH
dc.subject สุขภาพจิต th_TH
dc.title ปัจจัยทำนายพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ในจังหวัดจันทบุรี th_TH
dc.title.alternative Factor predicting appropriated sexual behaviors among the lower secondary school students in Chanthaburi province
dc.type บทความวารสาร th_TH
dc.issue 2
dc.volume 24
dc.year 2559
dc.description.abstractalternative This research was a predictive correlation study aimed at determining the predictive factors of resilience among community-dwelling older adults. The participants were 94 community dwellers aged 60 and older residing in Bangkok. They were selected using a stratified random sampling technique. Research instruments included the Personal information, the Perceived health status scale, the Morale scale, the Personal resource questionnaire 2000 and the Resilience scale. The Perceived health status scale, the Morale scale, the Personal resource questionnaire 2000 and the Resilience scale were reliability of Cronbach’s alpha coefficient at .84, .89, .70, and .74 respectively. Percentage, mean, standard deviation, and stepwise multiple regression analysis were employed for data analyses. The results showed that half of these older adults perceived their resilience at a high level and its mean score was at a moderate level (M = 144.29, SD = 14.98). Social support and perceived health status together could predict resilience with 30.9 % (R2 = .309, p < .01). The gender, the adequacy of income and morale could not predict resilience. The regression equation could be written as follows. Ý = 61.059 + 0.750 (social support) + 1.943 (perceived health status) From the study findings, it is suggested that in designing proper nursing intervention to promote resilience among older adults, nurses and health team personnel should enhance their social support and perception towards health. en
dc.journal วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา = Journal of faculty of nursing Burapha University.
dc.page 97-106.


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account