Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์และปัจจัยทำนายพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดจันทบุรี กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 470 คน ซึ่งได้มาด้วยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศแบบสอบถามการรับรู้ความสามารถแห่งตนในการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ แบบสอบถามการเข้าถึงสถานบันเทิง แบบสอบถามการเข้าถึงสื่อทางเพศ แบบสอบถามการควบคุมกำกับของครอบครัว แบบสอบถามพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเพื่อนสนิท และแบบสอบถามพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาคเท่ากับ .82, .73, .72, .86, .76, .71 และ .75 ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา และสถิติสมการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอนผลการวิจัยพบว่ากลุ่ม ตัวอย่างมีพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์อยู่ในระดับปกติ (ร้อยละ 73.62) ปัจจัยด้านการเข้าถึงสื่อทางเพศ (β = -.405) การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ (β = .092)พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเพื่อนสนิท (β = -.155) การ
ควบคุมกำกับของครอบครัว (β = .112) และทัศนคติเกี่ยว กับเรื่องเพศ (β = .088) สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยร่วมกัน ทำนายได้ร้อยละ 29.8 (R2 = .298, F(5, 464) = 39.339,
p <.001) ซึ่งสร้างเป็นสมการทำนายในรูปคะแนนดิบได้ดังนี้ พฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ = 53.450 - .497 (การเข้าถึงสื่อทางเพศ) + .100 (การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ) -.297 (พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของเพื่อนสนิท) +.247 (การควบคุมกำกับของครอบครัว) + .117 (ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่อง เพศ) จากผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาล ชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษาควรพัฒนากิจกรรมหรือโปรแกรมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางเพศที่พึงประสงค์ ของนักเรียนมัธยม ศึกษาตอนต้น ด้วยการส่งเสริมการรับรู้ความสามารถแห่งตน ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศ และการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ โดยเน้นการควบคุมกำกับของครอบครัว