dc.contributor.author |
รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์ |
|
dc.contributor.author |
พรนภา หอมสินธุ์ |
|
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2019-03-25T09:18:49Z |
|
dc.date.available |
2019-03-25T09:18:49Z |
|
dc.date.issued |
2557 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/2743 |
|
dc.description.abstract |
การศึกษาเชิงภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการสื่อสารของบุตรสาวกับมารดาเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเพศและพฤติกรรมทางเพศในนักเรียนหญิง และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการสื่อสารเรื่องเพศระหว่างบุตรสาวกับมารดา ปัจจัยด้านจิตสังคมกับการมีเพศสัมพันธ์
การสำรวจนี้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามที่ตอบด้วยตนเองจากนักเรียนหญิงอายุระหว่าง 15-18 ปี จำนวน 550 คน พื้นที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และวิทยาลัยอาชีวศึกษาของรัฐบาล ในจังหวัดชลบุรี เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบสอบถามการสื่อสารของบุตรกับมารดาเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเพศ แบบสอบถามทัศนคติและความเชื่อเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเพศ แบบสอบถามการรับรู้ในความสามารถของตนเองในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และแบบวัดพฤติกรรมทางเพศ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การหาความสัมพันธ์ของเพียร์สันและสถิติถดถอยลอจิสติกส์แบบหลายตัวแปรร่วม (Multiple logistic regression)
ผลการศึกษา พบว่า วัยรุ่นรับรู้ว่ามารดาของตนมีความถี่และความสะดวกใจในการพูดคุยเรื่องกับตนเองอยู่ในระดับค่อนข้างตํ่า ร้อยละ 29 ของวัยรุ่นหญิงตอบว่าเคยมีประสบการณ์มีเพศสัมพันธ์แล้ว การวิเคราะห์หลายปัจจัยร่วม พบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อการมีเพศสัมพันธ์คือ ความตั้งใจในการมีเพศสัมพันธ์ (AOR = 14.75, 95% CI = 8.61-25.27 รองลงมาคือ การรับรู้การมีเพศสัมพันธ์ของเพื่อน (AOR 2.51, 95% CI = 1.51-4.17) การรับรู้ความสามารถในการปฏิเสธ
การมีเพศสัมพันธ์ (AOR 2.34, 95% CI = 1.41-3.89) และความไม่สะดวกใจในการพูดคุยมีอิทธิพลต่อการมีเพศสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (AOR = 1.65, 95% CI = 1.00-2.74)
ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าบุคคลากรทางสาธารณสุขควรมีบทบาทในการอบรมทักษะชีวิตในการปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ การปรับเปลี่ยนบรรทัดฐานทางสังคมของวัยรุ่นเกี่ยวกับการเริ่มมีเพศสัมพันธ์ และส่งเสริมให้มารดามีการสื่อสารเรื่องเพศกับบุตรสาววัยรุ่นมากขึ้น |
th_TH |
dc.language.iso |
th |
th_TH |
dc.subject |
การสื่อสาร |
th_TH |
dc.subject |
วัยรุ่นหญิง - - พฤติกรรมทางเพศ |
th_TH |
dc.subject |
สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
th_TH |
dc.subject |
เพศสัมพันธ์ |
th_TH |
dc.title |
การสื่อสารของบุตรสาวกับมารดาเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเพศ และปัจจัยด้านจิตสังคมที่มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนหญิง |
th_TH |
dc.title.alternative |
Mother-daughter sexual risk communication and psychosocial factors related to sexual experience among female students |
en |
dc.type |
บทความวารสาร |
th_TH |
dc.issue |
2 |
|
dc.volume |
9 |
|
dc.year |
2557 |
|
dc.description.abstractalternative |
This cross-sectional study aimed to investigate mother-daughter communication about sex-related topics and sexual behaviors in female students, as well as to examine associations between mother-daughter communication about the sex-related topics and psychosocial factors with sexual experience among female students.
A survey, using self-administered questionnaires (SAQ), was conducted with 550 female students aged 15 to 18 years old. Recruitment sites were public upper secondary schools and public vocational colleges located in Chon Buri province. The instruments consisted of the Parent-Teen Sexual Risk Communication Scale (PTSRC), Sexual Risk-Related Attitudes and Beliefs Scale, Safe-Sex Self-efficacy Scale, and Sexual Behaviors Scale. Descriptive statistics, Pearson’s correlations, and Multiple Logistic Regression [Adjusted Odds Ratio (AOR) with 95% Confidence Interval (CI)] were used to analyze the data. The significant findings revealed that overall, frequency of mother-daughter communication about the sex-related topics and comfort with communication was quite low. For initiating sex, a substantial number of adolescent females (29%) reported ever having sexual experience. Multiple logistic regression showed that the most influential factor on having sexual experience was intention of having intercourse (AOR = 14.75, 95% CI = 8.61-25.27). Perception of peer’s sexual experience (AOR = 2.51, 95% CI = 1.51-4.17), low refusal self-efficacy (AOR = 2.34, 95% CI = 1.41-3.89) and discomfort with sexual communication directly influenced sexual experience (AOR = 1.65, 95% CI = 1.00-2.74). |
en |
dc.journal |
วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา = The public health journal of Burapha University |
|
dc.page |
33-44. |
|