Abstract:
การกำจัดธาตุอาหารด้วยน้ำเสียทางวิธีการขีวภาพ เป็นกระบวนการที่นำมาใช้ในการกำจัดธาตุอาหารไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในน้ำเสีย ทำให้สามารถลดปัญหาที่มีต่อคุณภาพแหล่งน้ำ เช่น การเกิดปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชัน ประเด็นหนึ่งที่มีความสำคัญในการพิจารณาเลือกใช้วิธีการดังกล่าว คือ พลังงานที่ต้องใช้ระบบสูงขึ้น อาจสูงถึงร้อยละ 50 ของพลังงานที่ต้องใช้ในระบบบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพทั่วไปที่กำจัดสารอินทรีย์แต่เพียงอย่างเดียว พลังานที่ต้องใช้สูงขึ้นมาจากความต้องการใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้นในกระบวนการไนตริฟิเคชันเพื่อเปลี่ยนแอมโมเนียมไปเป็นไนเตรทไนโตรเจน และพลังงานที่ต้องใช้สำหรับการกวนผสมจุลินทรีย์กับน้ำเสียและการหมุนเวียนสลัดจ์ ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องมีการกำจัดธาตุอาหารเพื่อการอนุรักษณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว ระบบบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพเพื่อการกำจัดธาตุอาหารนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าวิธีการบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพร่วมกันกับวิธีทางเคมีหรือฟิสิกส์เคมีในการกำจัดธาตุอาหาร ความเป็นจริงนั้นระบบบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพเพื่อกำจัดธาตุอาหารสามารถอนุรักลักษ์พลังงานได้ส่วนหนึ่ง เพราะสารอินทรีย์ส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้ในกระบวนการดีไนตริฟิเคชันของกระบวนการกำจัดฟอสฟอรัสทางชีวภาพ ทำให้สารอิทนรีย์ที่เข้าสู่ระบบเหล่านี้ไม่ถูกนำมาออกซิไดซ์โดยใช้ออกซิเจนในถังเติมอากาศอีก ทำให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานขึ้น นอกจากนั้นระบบกำจัดธาตุอาหารไนโตรเจนทางชีวภาพยังสร้างสภาพต่างให้เกิดขึ้นบางส่วนในระบบด้วย ทำให้สามารถรถปริมาณสารเคมีที่ต้องเติมลงไปในระบบ อีกทั้ง กระบวนการกำจัดธาตุอาหารไนโตรเจนทางชีวภาพ ยังมีปริมาณสลัดจ์ที่ต้องกำจัดในขั้นสุดท้ายน้อยกว่าระบบบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพธรรมดาทั่วไปที่กำจัดสารอินทรีย์แต่เพียงอย่างเดียว ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการกำจัดสลัดจ์ส่วนเกินได้มากขึ้น
คำสำคัญ : ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, การกำจัดธาตุทางชีวภาพ, พลังงาน , น้ำเสีย