dc.contributor.author |
วริยา วชิราวัธน์ |
th |
dc.contributor.author |
ศิริวัลห์ วัฒนสินธุ์ |
th |
dc.contributor.author |
ทัศนีย์ วรภัทรากุล |
th |
dc.contributor.author |
อังคนา ศิลปรัตนาภรณ์ |
th |
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2019-03-25T09:09:54Z |
|
dc.date.available |
2019-03-25T09:09:54Z |
|
dc.date.issued |
2559 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1874 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งการทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการส่งเสริมการจัดการดูแลตนเองที่เน้นการสร้างสุขในผู้เป็นความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยงที่มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี โดยใช้แนวคิดการดูแลตนเองของโอเร็ม เป็นแนวทางในการจัดดำเนินการ กลุ่มตัวอย่างคือ นิสิตและกลุ่มอาชีพรับจ้างในมหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 72 คน ผู้วิจัยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ เก็บข้อมูลระหว่างเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษามี 2 ส่วน คือ ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัยและเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามความรู้และพฤติกรรมสุขภาพในการจัดการดูแลตนเอง และเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ โปรแกรมการพยาบาลแบบสนับสนุนและให้ความรู้ในผู้เป็นความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยงโดยโดยใช้เทคนิคการสร้างสุขที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นใช้ระยะเวลาดำเนินการทดลอง 4 สัปดาห์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาและสถิติค่าที
ผลการวิจัยพบว่า เมื่อสิ้นสุดการทดลอง กลุ่มศึกษามีคะแนนเฉลี่ยความรู้และพฤติกรรมสุขภาพในการจัดการดูแลตนเองสูงกว่าก่อนการทดลอง (t = 11.14, p = < .001 และ t = 4.28, p = < .001 ตามลำดับ) ในขณะที่ค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายหลังการทดลองต่ำกว่าก่อนการทดลอง (t = 2.21, p = ns)
ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นประโยชน์ของการใช้รูปแบบการส่งเสริมการจัดการดูแลตนเองในผู้เป็นความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยงที่ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ มีพฤติกรรมสุขภาพและทักษะในการจัดการดูแลตนเองเหมาะสมกับภาวะโรคและความเสี่ยงของการเกิดโรค โดยโปรแกรมสามารถเพิ่มความรู้และพฤติกรรมสุขภาพในการจัดการดูแลตนเองได้ อย่างไรก็ตามค่า
การเปลี่ยนแปลงของค่าดัชนีมวลกายยังไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ |
th_TH |
dc.description.sponsorship |
สนับสนุนงบประมาณวิจัยโดย เงินรายได้มหาวิทยาลัยบูรพา (เงินอุดหนุนรัฐบาล) ประจำปีงบประมาณ 2556 |
en |
dc.language.iso |
th |
th_TH |
dc.publisher |
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
th_TH |
dc.subject |
การดูแลตนเอง |
th_TH |
dc.subject |
ความดันโลหิตสูง |
th_TH |
dc.subject |
สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ |
th_TH |
dc.title |
ผลของการใช้รูปแบบการส่งเสริมการจัดการดูแลตนเองที่เน้นการสร้างสุขในผู้เป็นความดันโลหิตสูงและกลุ่มเสี่ยง |
th_TH |
dc.title.alternative |
Effects of the creating happiness self-care model for hypertensive persons and risk group |
en |
dc.type |
Research |
|
dc.year |
2559 |
|
dc.description.abstractalternative |
The purpose of this intervention research was to evaluate the effects of the creating happiness self-care model for hypertensive persons and risk group in Chonburi. Orem's Self-care theory was used as a conceptual framework to develop the program. Subjects were hypertensive clients and risk group (n = 72) purposively selected at Burapha University. Data were collected during March-September 2013. The research instruments were a) a Demographic Recording From, b) the Hypertensive Education Questionnaire, c) the Hypertensive Self-care Behavior Questionnaire and d) The nurse-led intervention included education and support using the creating happiness technique for a period of 4 weeks after per-test. Data were analyzed by descriptive statistics, and Paired t-test.
The significant findings revealed that the mean scores of hypertensive education and the Hypertensive Self-care Behavior pre-test increased more than post-test (t = 11.14, p = < .001 และ t = 4.28, p = < .001 respectively). Whilst, the mean scores of Body Mass Index was lower non-significantlt ( t= 2.21, p = ns)
The finding suggested that this nurse led intervention program had an effect on knowledge and self-care behavior. Where as there was little change in Body Mass Index of the clients. |
en |