Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างซิงเกิลนิวคลีโอไทด์โพลีมอร์ฟิซึม
(SNP) rs1333049, rs10757278 กับปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ ระดับไขมัน ระดับน้ำตาล ระดับฮอร์โมนอินซูลิน ดัชนีมวลกาย ความดันโลหิต รอบเอวต่อรอบสะโพก รวมทั้งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดกับสมรรถภาพทางกายด้านความแข็งแรงและความทนทานของระบบหายใจและหัวใจ ในผู้สูงอายุการศึกษาครั้งนี้ทำในอาสาสมัครผู้สูงอายุจำนวน 203 ราย อายุเฉลี่ย 67.09 ± 5.67 ปี ทำการศึกษา SNP rs1333049, rs10757278, ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ ไขมันในเลือด ระดับน้ำตาล ฮอร์โมนอินซูลิน ดัชนีมวลกาย รอบสะโพก นอกจากนี้ยังทำการทดสอบสมรรถภาพระบบหายใจและหัวใจ ได้แก่ การลุกนั่ง 5 ครั้ง (5TSTS) ระยะทางการเดินจากการทดสอบเดินเร็ว 12 นาที (ISWT) การยกขาสูงสลับกัน 2 นาที (2-MST) และนับก้าวจากการทดสอบเดินเร็ว 1 นาที ผลการศึกษาครั้งยังไม่พบความสัมพันธ์ของ rs1333049 (G>C) กับค่ารอบเอว BMI ภาวะความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ระดับคอเลสเตอรอล ระดับไขมัน LDL ระดับไตรกลีเซอไรด์ โรคเมตาบิลิก และปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจทั้ง 3 ระดับ ซึ่งจำแนกโรคเมตาบอลิกตามเกณฑ์ the Third Report of the National Cholesterol Education Program (NCEP ATP3) และ Cardiovascular risk ตามเกณฑ์ the Atherosclerotic Cardiovascular Disease (ASCVD) ผลการศึกษาความสัมพันธ์ของ rs10757278 พบว่า genotype แบบ AA มีความสัมพันธ์กับระดับคอเลสเตอรอลและระดับไขมัน LDL ที่สูงกว่าปกติ ให้ค่า Odd ratio ที่สูงถึง 3.223 และ 3.566 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มี genotype แบบ AA มีความเสี่ยงที่จะมีระดับคอเลสเตอรอลและระดับไขมัน LDL ที่สูง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่พบความสัมพันธ์ของ rs10757278 (A>G) กับค่ารอบเอว BMI ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ระดับไตรกลีเซอไรด์ โรคเมตาบิลิก และปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจทั้ง 3 ระดับ ซึ่งจำแนกโรคเมตาบอลิกตามเกณฑ์ NCEP ATP3 และ Cardiovascular risk ตามเกณฑ์ ASCVD
ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดกับสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุ พบว่า FBG สัมพันธ์เชิงลบกับ ระยะทางการเดินจากการทดสอบ ISWT และจำนวนก้าวจากการทดสอบเดินเร็ว 1 นาทีHDL มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ HDL มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับระยะทางการเดินจากการทดสอบ ISWT และ insulin มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความแข็งแรงของการทำงานของกล้ามเนื้อขาในการทดสอบลุก-นั่งลดลง 5 ครั้ง