dc.contributor.author |
ชานน ชลวัฒนะ |
th |
dc.contributor.author |
นฤมล ชูชินปราการ |
th |
dc.contributor.author |
เพชรรัตน์ วิริยะสืบพงศ์ |
th |
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะการจัดการและการท่องเที่ยว |
|
dc.date.accessioned |
2019-03-25T09:07:10Z |
|
dc.date.available |
2019-03-25T09:07:10Z |
|
dc.date.issued |
2556 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1532 |
|
dc.description.abstract |
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะสำรวจความต้องการการศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรการจัดการธุรกิจ คณะการจัดการและการท่องเที่ยว มหาวิยาลัยบูรพา เพื่อดูความต้องการ ความคิดเห็นและความคาดหวังจากการศึกษาต่อในหลักสูตรนี้ และเพื่อสำรวจความคิดเห็นภายใต้กรอบทรัพยากรสำคัญขององค์การ (VRIO framework) 4 ด้าน ได้แก่ คุณค่า (Value) ความหายาก (Rareness) ความสามารถในการลอกเลียนแบบ (Imitability) และองค์การ (Organization) โดยเป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed methods research) ซึ่งใช้เทคนิควิธีการวิจัยที่ผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ดำเนินการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามประกอบกับการสัมภาษณ์เชิงลึก ข้อมูลเชิงปริมาณใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัย
บูรพา และผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เลือกโดยใช้สูตรทาโร่ ยามาเน่ จำนวน 660 คน ประกอบด้วยผู้ที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 จำนวน 275 คน และผู้ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก จำนวน 385 คน โดยได้รับแบบสอบถามกลับคืนมาจำนวน 560 ฉบับ
คิดเป็นร้อยละ 84.85 ในส่วนของข้อมูลเชิงคุณภาพได้ทำการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจ จำนวน 3 คน ผลการสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่ให้ความสนใจในการศึกษาต่อในหลักสูตรนี้มีจำนวนร้อยละ 56.6 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด โดยคนที่สนใจส่วนมาก
จะเป็นนิสิตที่กำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้าย และสนใจที่จะเรียนแบบไม่ทำวิทยานิพนธ์ โดยมีเหตุผลสำคัญที่ให้ความสนใจในหลักสูตรอันดับแรกคือ ต้องการเพิ่มความรู้ด้านเนื้อหาทฤษฎีให้ลึกซึ้ง รองลงมาได้แก่ อยากเรียนต่อเพิ่มวุฒิการศึกษา และความน่าสนใจในเนื้อหาของหลักสูตร ตามลำดับ และปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการศึกษาต่ออันดับแรกคือ การได้สร้างความสัมพันธ์ภายใน
กลุ่มเรียน ความทันสมัยของหลักสูตร เวลาเรียนที่เอื้ออำนวยและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียน ตามลำดับ ส่วนกลุ่มที่ไม่ให้ความสนใจที่จะเรียนในหลักสูตรนั้นมีเหตุผล คือ ทำงานในวันจันทร์
ถึงเสาร์ ต้องการทำงานเพียงอย่างเดียวและอยากได้ประสบการณ์ตรงจากการทำงานมากกว่า ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจ จำนวน 3 คน ด้วยแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างภายใต้กรอบแนวคิดทรัพยากรสำคัญขององค์การ (VRIO framework) พบว่า หลักสูตรนี้ควรเน้นการเรียนรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในทางธุรกิจได้เพื่อเพิ่มความน่าในใจในหลักสูตร นอกจากนี้ทางคณะฯ ควรคัดเลือกบุคลากรที่เก่งมีคุณภาพ โดยเฉพาะอาจารย์ผู้สอนต้องมีความรู้ดีมีเทคนิคการสอนที่ดีในการถ่ายทอดแก่ผู้เรียน เข้าใจผู้เรียน มีคุณธรรมและจริยธรรมที่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของสถาบันการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น และหากเป็นไปได้ควรสร้าง
ความร่วมมือกับองค์การภายนอก ทั้งองค์การทางธุรกิจและองค์การทางการศึกษาที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือข้อเสนอแนะที่ได้จากงานวิจัย คือพัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาโทให้หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ต้องมีการเตรียมทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในการเรียนให้พร้อมสำหรับผู้มาเรียน ทั้งบุคลากร อาคารสถานที่ เอกสารตำราเรียน และควรมีการติดตามความก้าวหน้าในการทำงานของมหาบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปประชาสัมพันธ์หลักสูตรให้บุคคลที่สนใจทราบอบ่างทั่วถึงและกว้างขวาง |
th_TH |
dc.description.sponsorship |
งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานคณะกรรมการดำเนินการทำวิจัย สำหรับจัดทำแผนการเรียน หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต คณะการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา |
en |
dc.language.iso |
th |
th_TH |
dc.publisher |
คณะการจัดการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา |
th_TH |
dc.subject |
การศึกษาต่อ |
th_TH |
dc.subject |
สาขาการศึกษา |
th_TH |
dc.subject |
หลักสูตร |
th_TH |
dc.title |
การสำรวจความต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรการจัดการธุรกิจ (Business Management) คณะการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา: กรณีศึกษา นิสิตระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่สี่และผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก |
th_TH |
dc.type |
Research |
th_TH |
dc.year |
2556 |
|