Abstract:
ภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือด เป็นปัญหาที่สำคัญในคนไข้ไตวายเรื้อรัง วัตถุประสงค์ของ
การศึกษานี้คือเพื่อ ศึกษาผลของภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง ที่มีผลต่อภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือดในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังโดยใช้การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจผ่านทางหน้าอก
วิธีการศึกษา
เป็นการศึกษาแบบ Ethiognostic research โดยมีรูปแบบการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบ Prospective
cohort study ซึ่งผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่มาฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาจะได้รับการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ จากนั้นจะเก็บข้อมูลผู้ป่วยตอนที่มาฟอกเลือดว่ามีภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือดหรือไม่ จากนั้นนำข้อมูลผู้ป่วยทั่วไป ข้อมูลตอนฟอกไต และข้อมูลจากคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ มาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือด แบบ univariate และ multivariate logistic regression โดยปัจจัยดังกล่าวจะมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อ p-value น้อยกว่า 0.05
ผลการศึกษา
จากการศึกษาในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 ถึงเดือน มีนาคม พ.ศ. 2564 ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจำนวน
35 คนที่ได้รับการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ พบว่ามีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงจำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 45.7 ความชุกในการเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือดพบร้อยละ 45.8 ผู้ป่วยทั้งหมดมีการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ค่า right ventricular systolic pressure ของกลุ่มที่มีความดันโลหิตต่ำระหว่างฟอกเลือด กับกลุ่มที่ไม่มีความดันโลหิตต่ำระหว่างฟอกเลือด ไม่มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ (45.33 ± 11.62 มิลลิเมตรปรอท และ 41.06 ± 13.78 มิลลิเมตรปรอท ตามลำดับ, p = 0.401) การวิเคราะห์แบบ univariate พบว่า เพศหญิง left ventricular mass index การบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย และภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง สัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือด แต่การวิเคราะห์แบบ multivariate ไม่มีปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือด แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า เพศหญิง และผู้ป่วยที่มีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือด โดยดูจากค่า risk ratio ที่ 3.13 และ 2,18 ตามลำดับ
สรุปผล
ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่มีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงมีโอกาสเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำในขณะฟอกเลือด เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่มีความดันหลอดเลือดปอดสูง แต่ยังไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ