Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของการจัดการนวัตกรรมที่ส่งอิทธิพลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันขององค์กรในอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์โดยการวิจัยแบบผสานวิธีได้แก่ การวิจัยเชิงปริมาณเก็บรวบรวมข้อมูลกับผู้บริหารที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในบริษัทในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน จำนวน 312 คน ด้วยแบบสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์โมเดล สมการโครงสร้าง และการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลกับผู้บริหารบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนที่ได้รับรางวัลและมีชื่อเสียง จำนวน 3 คน และตัวแทนภาครัฐที่เกี่ยวเชิงนโยบาย คือ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานของจังหวัดในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1)โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุการจัดการนวัตกรรมที่มีอิทธิพลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันขององค์กรในอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ 2) ความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในเกณฑ์ดี แสดงให้เห็นว่าสามารถไปประยุกต์ใช้ได้จริง ( 2 ) เท่ากับ 223.84 องศาอิสระ (df) เท่ากับ 193 ค่า P-value เท่ากับ 0.063 ค่าไค-สแควร์สัมพันธ์ ( 2 / df) เท่ากับ 1.159 ค่า GFI เท่ากับ 0.943 และค่า AGFI เท่ากับ 0.912 ค่า (RMSEA) เท่ากับ 0.023 ตัวแปรทั้งหมดในโมเดลสามารถร่วมอธิบายการจัดการนวัตกรรม ความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ร้อยละ 98.30 และ 94.20 ยังพบว่า 3) แนวทางการจัดการนวัตกรรม พบว่า ปัจจัยทุกตัวส่งผลต่อการจัดการนวัตกรรมซึ่งเป็นปัจจัยภายในองค์กร เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและการพัฒนา อย่างยั่งยืน ผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนสมัยใหม่/ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิงนโยบายต้องบูรณาการความร่วมมือที่ชัดเจน ปัจจัยภายนอก คือ นโยบายภาครัฐและการมุ่งเน้นทางการตลาด