Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการสินค้าคงคลังในปัจจุบันของบริษัทกรณีศึกษา เพื่อเลือกรูปแบบการพยากรณ์ที่เหมาะสมในการคาดการณ์ความต้องการสินค้าสำเร็จรูปและศึกษาแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลังของบริษัท กรณีศึกษาโดยพบว่า ในปัจจุบันการพยากรณ์คำสั่งซื้อของลูกค้าอาศัยประสบการณ์จากการทำงานของเจ้าหน้าที่และการกำหนดนโยบายการควบคุมปริมาณสินค้าคงคลังโดยเฉพาะวัตถุดิบประเภทอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่เหมาะสม ส่งผลให้มีสินค้าคงคลังมากเกินไป จึงดำเนินการศึกษาวิธีการพยากรณ์ความต้องการเครื่องปรับอากาศโดยใช้โปรแกรมสถิติ Minitab ด้วยวิธีการพยากรณ์แบบอนุกรมเวลา พร้อมจัดลำดับความสำคัญของวัตถุดิบกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการวิเคราะห์ตามมูลค่าสินค้าและตามความไม่แน่นอนของอุปสงค์เพื่อกำหนดนโยบายในการจัดการสินค้าคงคลังให้กับกลุ่มวัตถุดิบที่มีความสัญให้เหมาะสมขึ้น ผลการวิจัยพบว่า ข้อมูลที่นำมาใช้ในการวางแผนสินค้าคงคลังเป็นค่าพยากรณ์ที่ได้ จากลูกค้าที่มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผลการวางแผนมีความคลาดเคลื่อน งานวิจัยนี้จึงหาเครื่องมือในการพยากรณ์โดยพบว่าวิธีการพยากรณ์แบบ Winters’ method เป็นวิธีการพยากรณ์ที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากมีค่าความคลาดเคลื่อนของการพยากรณ์ต่ำที่สุด เมื่อกำหนดนโยบายการจัดการสินค้าคงคลังให้กับวัตถุดิบกลุ่ม AX ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญที่สุด จำนวน 20 รายการ โดยการกำหนดปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดสินค้าคงคลังสำรองและจุดสั่งซื้อใหม่จากความต้องการ วัตถุดิบที่ได้จากค่าพยากรณ์ในปี 2563 แล้วเปรียบเทียบต้นทุนรวมที่เกิดขึ้นกับต้นทุนรวมจากการจัดการสินค้าคงคลังแบบปัจจุบันของบริษัทกรณีศึกษา พบว่า นโยบายการจัดการสินค้าคงคลังจากงานวิจัยนี้สามารถลดต้นทุนรวมลงได้ 308,669.22 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43.90