DSpace Repository

แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเขตพื้นที่บางพระ

Show simple item record

dc.contributor.advisor กฤษฎา นันทเพชร
dc.contributor.advisor อุษณากร ทาวะรมย์
dc.contributor.author นิราวัลย์ ศรีทอง
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ
dc.date.accessioned 2023-09-18T07:44:03Z
dc.date.available 2023-09-18T07:44:03Z
dc.date.issued 2563
dc.identifier.uri https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/10043
dc.description งานนิพนธ์ (รป.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2563
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเขตพื้นที่บางพระและเพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่บางพระจำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา หน่วยงานที่สังกัด และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ประชากร คือ บุคลากรสายสนับสนุน จำนวน 341 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistic) หรือค่าสถิติพื้นฐาน เช่น ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) การทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inference statistics) ได้แก่ ttest การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way analysis of Variance: One-way ANOVA) หรือ F-test และการวิเคราะห์ความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธี (Least-square test: LSD) ผลการวิจัยพบว่า บุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่บางพระ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 31-40 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี สังกัดหน่วยงานสำนักงานอธิการบดีและสังกัด และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานมากกว่า 4 ปี แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่บางพระโดยรวมอยู่ระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความรับผิดชอบ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา ด้านความสำเร็จในการทำงาน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติด้านนโยบาย/แผนและการบริหารงาน ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ด้านความมั่นคงในงาน ด้านสภาพการปฏิบัติงาน ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน และด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า บุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเขตพื้นที่บางพระที่มีเพศต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน แต่บุคลากรสายสนับสนุนที่มีอายุต่างกัน พบว่า มีแรงจูงใจในด้านความสำเร็จในการทำงานและด้านความรับผิดชอบแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 บุคลากรสายสนับสนุนที่มีระดับการศึกษาต่างกัน พบว่า มีแรงจูงใจในด้านความสำเร็จในการทำงาน ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติด้านความรับผิดชอบ ด้านนโยบาย/แผนและการบริหารงาน และภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 บุคลากรสายสนับสนุนที่มีหน่วยงานที่สังกัดต่างกัน พบว่า มีแรงจูงใจในด้านสภาพการปฏิบัติงานแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และบุคลากรสายสนับสนุนที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานต่างกัน พบว่า มีแรงจูงใจในด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
dc.language.iso th
dc.publisher วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.rights มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.subject แรงจูงใจในการทำงาน
dc.subject บุคลากรทางการศึกษา
dc.subject มหาวิทยาลัยบูรพา -- วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ
dc.title แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเขตพื้นที่บางพระ
dc.title.alternative Work motivtion of officers of rjmngl university of technology twn-ok, bng phr cmpus
dc.type วิทยานิพนธ์/ Thesis
dc.description.abstractalternative This study aimed to study the work motivation of officers, Rajamangala University of Technology Tawan-ok, Bangphra Campus, and to compare the work motivation of offices, Rajamangala University of Technology Tawan-ok, Bangphra Campus, classified by gender, age, education level, under the agency and operational experience, the population was 341 officers, the research tool was questionnaire, data analysis with descriptive or basic statistics such as frequency, percentage, mean and standard deviation, hypothesis testing using inference statistics such as t-test, One-Way ANOVA and Post-hoc Comparison by LSD. The results found that: officers’ Rajamangala University of Technology Tawan-ok, Bangphra Campus, most of them were female, aged between 31-40 years, had a bachelor’s degree, under the Office of the President and had more 4 years of working experience; the work motivation of officers, Rajamangala University of Technology Tawan-ok, Bangphra Campus, in overall was at a high level, when considering each aspect, it was found that the responsibility was the highest level, followed by the relationships with colleagues and supervisors, the success in work, the job characteristics, the policy/ planning and administration, the recognition, the job security, the operational conditions, the job advancement 'and the compensation and benefits were the lowest level; the results of the hypothesis testing found that the officers of Rajamangala University of Technology Tawan-ok, Bangphra Campus with different genders had no different motives in their work, but officers of different ages found significantly different motivations in the success in work and the responsibility at the level of 0.05, officers of different educational levels were found significant different motivations in the success in work, the job characteristics, the responsibility, the policy/ planning and administration at the level of 0.05, officers of different.
dc.degree.level ปริญญาโท
dc.degree.discipline วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ
dc.degree.name รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
dc.degree.grantor มหาวิทยาลัยบูรพา


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account