กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/6666
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC | ค่า | ภาษา |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | จิตรพรรณ ภูษาภักดีภพ | |
dc.contributor.advisor | ศรีรัตน์ ล้อมพงศ์ | |
dc.contributor.author | สุทธิพัฒน์ ศิริรัตน์ | |
dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะสาธารณสุขศาสตร์ | |
dc.date.accessioned | 2023-05-12T03:14:57Z | |
dc.date.available | 2023-05-12T03:14:57Z | |
dc.date.issued | 2560 | |
dc.identifier.uri | https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/6666 | |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.) -- มหาวิทยาลัยบูรพา, 2560 | |
dc.description.abstract | งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการรับสัมผัสสาร Methyl Ethyl Ketone (MEK) และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสมรรถภาพการมองเห็นของพนักงานฝ่ายผลิตในโรงงานผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จำนวนตัวอย่างทั้งหมดในการศึกษามี 162 คน แบ่งเป็นพนักงานแผนกประกอบ 110 คนและแผนกขัดแต่ง 52 คน การศึกษามีการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตรวจวัดระดับความเข้มข้นของ MEK ในปัสสาวะหลังเลิกงาน และวัดสมรรถภาพการมองเห็น (ตาบอดสีและลานสายตา) จากการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นพนักงานหญิง ร้อยละ 95.1 อายุเฉลี่ย 30.7 ปี ร้อยละ 96.9 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ร้อยละ 32.7 ไม่เคยสูบบุหรี่ ร้อยละ 96.9 ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 93.2 ระยะเวลานอนหลับเฉลี่ย 5.8 ชั่วโมงต่อวัน ทำงานในตำแหน่งปัจจุบันมาน้อยกว่า 7 ปี ร้อยละ 91.4 ไม่มีโรคประจำตัวและยาที่รับประทานประจำ ร้อยละ 87.0 และ 90.7 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลโดยสวมใส่ร้อยละ 76-100 ของเวลาทำงาน ร้อยละ 91.4 มีระดับความเข้มข้นของ MEK ในปัสสาวะหลังเลิกงานเฉลี่ย 0.43 ± 0.24 mg/ L สำหรับ สมรรถภาพการมองเห็น พบว่า อาการเกี่ยวกับสายตาที่เป็นตลอดเวลาได้แก่ อาการแสบตา/ เจ็บตา ตาอักเสบ/ แดงบวม มองเห็นภาพซ้อนและเห็นสีรุ้งรอบดวงไฟ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการตาบอดสีร้อยละ 72.2 และไม่มีความผิดปกติของลานสายตา ร้อยละ 98.8 เมื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่าง ๆ กับสมรรถภาพการมองเห็น พบว่า อายุกับอาการเกี่ยวกับสายตามีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p = 0.034) และสถานภาพกับอาการเกี่ยวกับสายตามีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p = 0.041) แต่สำหรับปัจจัยด้านอื่น ๆ กับสมรรถภาพการมองเห็น พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กัน แต่อย่างไรก็ตามจากผลการศึกษานี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์เป็นข้อมูล สำหรับการควบคุมและลดผลกระทบต่อสุขภาพของสาร MEK ในอนาคตได้ | |
dc.language.iso | th | |
dc.publisher | คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา | |
dc.rights | มหาวิทยาลัยบูรพา | |
dc.subject | การมองเห็น | |
dc.subject | สมรรถภาพ | |
dc.subject | มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย | |
dc.title | การประเมินการรับสัมผัสสาร Methyl ethyl ketone ในปัสสาวะและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสมรรถภาพการมองเห็นของพนักงานฝ่ายผลิตในโรงงานผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร | |
dc.title.alternative | The evlution of methyl ethyl ketone exposure in urine nd fctors relted to visul performnce mong production workersin shoe mnufcturing fctory in bngkok | |
dc.type | วิทยานิพนธ์/ Thesis | |
dc.description.abstractalternative | This research was a cross sectional study which aimed to evaluate Methyl Ethyl Ketone (MEK) exposure in urine and factors related to visual performance among production workers in a shoe manufacturing factory in the Bangkok Metropolitan region. 162 participants were recruited; 110 worked in the shoe assembly department and 52 persons worked in the finishing department. Three types of data were collected: questionnaire was administered, urine samples were collected after the work shift to analyze for the presence of MEK and a visual performance test (for color blindness and visual field) was conducted. Most workers were women (95.1%), with a mean age of 30.7 yearsold. Most received primary education (32.7%). Nearly all of them (96.9% and 93.2%, respectively) never smoked or consumed alcoholic beverages. Mean sleep duration was5.8 hours a day. 91.4% of the participants had worked in their current position for less than 7 years. A large majority reported to have no preexisting illnesses or diseases and did not use any medication (87.0% and 90.7%, respectively). All had experience using personal protection equipment, with 91.4% reporting they always used it. The results of urine analysis showed that the average urine MEK concentration was 0.43 ± 0.24 mg/ L. In terms of visual performance, we found that a small number of workers reported continuous eye irritation/ pain and blurred vision as well as reporting a rainbow glare (1.2% reported each of these symptoms). Most of them reported no color blindness (72.2%)or any other abnormal visual field (98.8%).Statistically, the relationshipsbetween all factors studied and visual performance were not significant. Only age and marital status were related significantly to eye symptoms (p = 0.034, p = 0.041, respectively). Despite this, the author suggests that the results of this study are useful to the field concerned with reducing adverse health effects on workers due to MEK and exposure. | |
dc.degree.level | ปริญญาโท | |
dc.degree.discipline | อาชีวอนามัยและความปลอดภัย | |
dc.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต | |
dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยบูรพา | |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | วิทยานิพนธ์ (Theses) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
Fulltext.pdf | 1.05 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น