กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4215
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC | ค่า | ภาษา |
---|---|---|
dc.contributor.author | ศิริยุพา สนั่นเรืองศักดิ์ | |
dc.contributor.author | นฤมล ธีระรังสิกุล | |
dc.contributor.author | พจนารถ สารพัด | |
dc.contributor.author | มณีพร ภิญโญ | |
dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะแพทยศาสตร์ | |
dc.date.accessioned | 2021-06-21T09:03:31Z | |
dc.date.available | 2021-06-21T09:03:31Z | |
dc.date.issued | 2563 | |
dc.identifier.uri | http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4215 | |
dc.description.abstract | การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการตนเองของเด็กที่ป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กที่ป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมียที่มารับบริการแผนกผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก รูปแบบการศึกษาเป็นการวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 2 ระยะคือ 1) การวิเคราะห์สถานการณ์ เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกับเด็กโรคธาลัสซีเมีย จำนวน 11 คน และการตอบแบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ความร่วมมือในการรักษา พฤติกรรมการจัดการตนเอง ของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 88 คน คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง และ 2) การพัฒนารูปแบบ ได้จากการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากระยะที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา วิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุแบบขั้นตอน และวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยในระยะที่ 1 จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบประเด็นหลักในการจัดการตนเองของเด็กคือ การจัดการตนเองด้านชีวิตประจำวัน การจัดการตนเองด้านจิตใจ และสิ่งสนับสนุนการจัดการตนเอง ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณพบว่า ความร่วมมือ ในการรักษา และความรอบรู้ด้านสุขภาพ สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการจัดการตนเองของเด็กโรคธาลัสซีเมียได้ร้อยละ 17.4 ส่วนในระยะที่ 2 ได้รูปแบบการจัดการตนเอง ประกอบด้วย 1) ปัจจัยนำเข้าด้านเด็ก ประกอบด้วยมุมมองของเด็กต่อการจัดการตนเอง ความร่วมมือในการรักษา ความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการจัดการตนเอง ด้านบริบทครอบครัวและทีมสุขภาพ 2) กระบวนการ ได้แก่ การเตรียมความพร้อม การพัฒนาความสามารถในการจัดการตนเอง และการสนับสนุนการจัดการตนเอง และ 3) ผลลัพธ์ ได้แก่ ภาวะสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเด็ก ผลการวิจัยครั้งนี้ทำให้ได้รูปแบบการจัดการตนเองของเด็กที่ป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำโปรแกรมการจัดการตนเองของเด็กโรคธาลัสซีเมีย ปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้รูปแบบเป็นไปได้จริงและยั่งยืนคือความร่วมมือระหว่างครอบครัวและบุคลากรทีมสุขภาพ | th_TH |
dc.language.iso | th | th_TH |
dc.publisher | คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา | th_TH |
dc.subject | ธาลัสซีเมีย | th_TH |
dc.subject | ธาลัสซีเมียในเด็ก | th_TH |
dc.subject | การจัดการตนเอง (จิตวิทยา) | th_TH |
dc.subject | การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง | th_TH |
dc.subject | สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ | th_TH |
dc.title | รูปแบบการจัดการตนเองของเด็กที่ป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย | th_TH |
dc.title.alternative | The model of self-management for children with thalassemia | en |
dc.type | Article | th_TH |
dc.issue | 2 | th_TH |
dc.volume | 28 | th_TH |
dc.year | 2563 | th_TH |
dc.description.abstractalternative | This study was designed to develop a model of self-management for children with thalassemia. Participants were selected from in-patient and out-patient clinics in an Eastern regional hospital. This research had two development/design phases: 1) Analysis of the situation -- qualitative data were collected from in-depth interviews with 11 children, then 88 children were selected by purposive sampling and quantitative data were collected via a health literacy questionnaire, medical adherence questionnaire, and self-management behaviors questionnaire; 2) Model development – based on analysis and synthesis of phase I data. Data were analyzed by descriptive statistics, stepwise multiple regression, and content analysis. Phase I qualitative data revealed that major themes of the self-management experiences of children with thalassemia were: 1) Self-management for daily life; 2) Self-management for emotional problems, and; 3) self-management support. The quantitative data showed medical adherence and health literacy together accounted for 17.4% of the variance. The self-management model that emerged consisted of: 1) Input, including child’s perspective of self-management, medical adherence, health literacy and self-management behaviors, and family and health care team aspects; 2) Process, consisting of readiness, developing ability of self-management, and self-management support, and; 3) Output, defined as child’s health status and quality of life. The self-management model could be used to guide self-management program development for children with thalassemia. The key successes derived from collaboration between family and health care providers make the model possible and sustainable. | en |
dc.journal | วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา | th_TH |
dc.page | 27-39. | th_TH |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | บทความวิชาการ (Journal Articles) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
nus28n2p27-39.pdf | 378.65 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น