กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3558
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorวิเชียร ชาลี
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.date.accessioned2019-05-15T02:48:18Z
dc.date.available2019-05-15T02:48:18Z
dc.date.issued2560
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3558
dc.description.abstractงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของความละเอียดของเถ้าแกลบ และ ความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ต่อกำลังอัดของจีโอพอลิเมอร์คอนกรีตจากเถ้าแกลบดําผสมเถ้าถ่านหิน โดยใช้อัตราส่วนระหว่างเถ้าถ่านหิน ต่อเถ้าแกลบดําเท่ากับ 9:1 โดยน้ำหนัก ใช้เถ้าแกลบดําที่มีความละเอียดต่างกัน 3 ขนาด ได้แก่ เถ้าแกลบดําไม่บด (O) เถ้าแกลบดําบดหยาบ (M) และเถ้าแกลบดําบดละเอียด (F) ซึ่งมีน้ำาหนักค้างบนตะแกรงมาตรฐานเบอร์ 325 ในปริมาณไม่เกินร้อยละ 48, 34 และ 30 ตามลําดับ ของเหลวที่ใช้ในการเตรียมวัสดุจีโอพอลิเมอร์ ประกอบด้วยสารละลายโซเดียมซิลิเกต (Na2SiO3) และสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ที่มีความเข้มข้น 12, 14, 16 และ 18 โมลาร์ และใช้อัตราส่วนระหวางของเหลวต่อวัสดุประสาน (L/S) เท่ากบ 0.90 หลังตัวอย่าง จีโอพอลิเมอร์คอนกรีตขนาด 100x100x100 มม. แกะแบบที่อายุ 24 ชม. และ บ่มตัวอย่างในอากาศโดยใช้พลาสติกพันรอบ ทดสอบกำลังอัดของจีโอพอลิเมอร์คอนกรีตที่อายุบ่มเป็นเวลา 7, 14, 28 และ 60 วัน ผลการศึกษาพบว่า ความละเอียดของเถ้าแกลบดําที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำลังอัดของจีโอพอลิเมอร์ คอนกรีตสูงขึ้น ทั้งนี้ตัวอย่างทดสอบที่ใช้เถ้าแกลบดําบดละเอียดมีค่ากำลังอัดสูงกว่าตัวอย่างที่ใช้เถ้าแกลบดําไม่บดอย่างมีนัยสําคัญโดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 60 ความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่สูงขึ้นในช่วง 12 - 16 โมลาร์ ส่งผลให้กำลังอัดมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีกำลังอัดสูงสุดที่ความเข้มข้น 16 โมลาร์และกำลังอัดลดลงเมื่อความเข้มข้นสูงขึ้นเท่ากับ 18 โมลาร์ นอกจากนี้กำลังอัด ของจีโอพอลิเมอร์คอนกรีตสูงขึ้นตามอายุทดสอบและมีแนวโน้มการพัฒนาที่สูงในช่วงอายุต้นth_TH
dc.description.sponsorshipโครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้ จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectคอนกรีตผสมขี้เถ้าลอย -- การทดสอบth_TH
dc.subjectจีโอโพลิเมอร์th_TH
dc.subjectคอนกรีต -- สารเติมแต่งth_TH
dc.subjectสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัยth_TH
dc.titleผลของความละเอียดของเถ้าแกลบและความเข้มข้นของโซเดียมไฮดรอกไซด์ต่อกำลังอัดของจีโอพอลิเมอร์คอนกรีตth_TH
dc.title.alternativeEffect of rice husk ash fineness and NaOH concentration on the compressive strength of geopolymer concreteen
dc.typeResearchth_TH
dc.author.emailwichian@buu.ac.th
dc.year2560th_TH
dc.description.abstractalternativeThis research studies to study the effects of black rice husk ash fineness and sodium hydroxide solution concentration on the compressive strength of geopolymer concrete made of black rice husk ash and fly ash at the ratio of 9:1 by weight of binder. The fineness of black rice husk ash were classified into original (O), medium (M), and fine (F) corresponding to their percent retained by weight on a #325 – sieve less than 48, 34, and 30, respectively. Sodium silicate solution (Na2SiO3) and sodium hydroxide solution (NaOH) with various concentrations of 12, 14, 16, and 18 molar were conducted with the liquid and solid (L/S) of 0.90 in geopolymer concrete mixtures. Cube specimens of 100x100x100 mm. were removed from the molds after being cast for 24 hours and then were cured with plastic wrap before compressive strength tests at the curing ages of 7, 14, 28, and 60 days. The study found that compressive strength increase with rice husk ash fineness. On average, compressive strength of the specimens containing small particle size of black rice husk ash were significantly higher than those of original particle size by about 60 percent. The greater in concentration of NaOH ranging from 12 - 16 molar also raised up the compressive strength. The highest compressive strength was obtained at the concentration of 16 molar and then its strength decreased at the greater concentration of 18 molar. Moreover, the compressive strength increased with curing time and developed greatly during the early perioden
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2563_003.pdf2.47 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น