กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3557
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorดวงทิพย์ อู่เงิน
dc.contributor.authorวรเทพ มุธุวรรณ
dc.contributor.authorศิรประภา ฟ้ากระจ่าง
dc.contributor.authorชนะ เทศคง
dc.contributor.authorธนกฤต คุ้มเศรณี
dc.contributor.authorณัฐชัย คุ้มสะอาด
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
dc.date.accessioned2019-05-15T02:15:39Z
dc.date.available2019-05-15T02:15:39Z
dc.date.issued2559
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3557
dc.description.abstractการทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะหาระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการผลิต ephyra ของ scyphistoma (polyp) แมงกะพรุนถ้วย (Catostylus townsendi) ในห้องปฏิบัติการ โดยไม่มีผลต่ออัตรารอดของ polyp จํานวนและขนาดของ ephyra โดยสุ่มตัวอ่อนแมงกะพรุนถ้วยในระยะ polyp จํานวน 45 ตัว ใส่ลงในภาชนะทดลองพลาสติก ขนาดความจุ 150 มิลลิลิตร จํานวน 1 polyp ต่อหนึ่งภาชนะทดลอง แล้วแบ่งออกเป็น 3 ชุดทดลอง ชุดทดลองละ 15 ซ้ำ (polyp) นําไปเลี้ยงไว้ ในกล่องโฟม ที่ควบคุมอุณหภูมิ ให้อยู่ในระดับที่แตกต่างกัน 3 ระดับ คือ 25.0, 27.0 และ 30.0 (ควบคุม) องศาเซลเซียส (°C) เป็นนระยะเวลา 60 วัน ผลการทดลองแสดงว่า ระดับอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ไม่มีผลต่ออัตรารอดของ polyp เมื่อสิ้นสุดการทดลอง และจํานวนของ ephyra ที่รวบรวมได้ ทั้งหมดตลอดการทดลอง (p>0.05) โดย polyp มีอัตรารอดเฉลี่ย (±SE) อยู่ระหว่าง 80.0 ± 10.7 -86.7 ± 9.1 % และจํานวน ephyra ที่ผลิตได้เฉลี่ย (±SE) เท่ากับ 13.6±1.2, 15.6 ±1.9, 15.9±1.0 ตัวต่อ polyp ที่อุณหภูมิ 25.0, 27.0 และ 30.0 °C ตามลําดับ แต่พบว่าระดับของอุณหภูมิที่แตกต่างกัน มีผลต่อขนาดของ ephyra โดย ephyra มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย (±SE) สูงสุดเท่ากับ 2.10±0.03a มิลลิเมตร เมื่อเลี้ยงที่อุณหภูมิ 25.0 °C และมีขนาดเล็กสุด เท่ากับ 1.81±0.03b มิลลิเมตร และ 1.78±0.03b มิลลิเมตร (p<0.01) ที่อุณหภูมิ 27.0 และ 30.0 °C ตามลําดับ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าที่อุณหภูมิ 30.0 °C มีแนวโน้มทําให้ ephyra :มีรูปร่างที่ผิดปกติไปจากเดิมสูงสุดเฉลี่ย (±SE) 24.8±3.3a ซึ่งแตกต่างจาก ephyra ของแมงกะพรุนถ้วยที่เลี้ยงที่อุณหภูมิ 25.0 และ 27.0 °C (p<0.01) ที่มีความผิดปกติของ ephyra เฉลี่ย (±SE) 21.1±5.5ab และ 10.4±14.9b ตามลําดับ สรุปได้ว่าระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมสําหรับการผลิต ephyra ของแมงกะพรุนถ้วย เท่ากับ 25.0 °C เพราะสามารถผลิต ephyra ในห้องปฏิบัติการ ได้มีขนาดใหญ่ และสมบูรณ์ที่สุดth_TH
dc.description.sponsorshipภายใต้แผนงานวิจัย ศึกษาการเกิดปรากฏการณ์แมงกะพรุนหลากสี บริเวณชายฝั่งทะเลจังหวัดตราด (Jellyfish blooms in coastal area of Trat province) โครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectแมงกะพรุนถ้วย -- ห้องปฏิบัติการth_TH
dc.subjectแมงกะพรุนถ้วย -- ตัวอ่อน -- ผลกระทบจากอุณหภูมิth_TH
dc.subjectสาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยาth_TH
dc.titleผลของระดับอุณหภูมิ ความเค็ม และความหนาแน่นของอาหารต่อการผลิต ephyra ของแมงกะพรุนถ้วย (Catostylus townsendi) ในห้องปฏิบัติการth_TH
dc.title.alternativeEffects of temperature, salinity, and prey density on ephyra production of the scyphozoan jellyfish, Catostylus townsendi reared in the laboratoryen
dc.typeResearchth_TH
dc.author.emailDoungtip@buu.ac.th
dc.author.emailvorathep@buu.ac.th
dc.author.emailsiraprapaf@buu.ac.th
dc.author.emailchana@buu.ac.th
dc.author.emailthanakitk@buu.ac.th
dc.year2559th_TH
dc.description.abstractalternativeA 60-day experiment was conducted to investigate the effects of temperature on ephyra production of the scyphozoan jellyfish, Catostylus townsendi reared in the laboratory. Forty-five polyps were used in the experiment which each polyp was stocked in a 150 ml plastic bowl. Fifteen replicate bowls were used for each of the 3 treatments (25.0, 27.0 and 30.0 ° C). The bowls in each treatment were kept in a foam box to maintain the temperature via a chiller. The results showed that there were no significant differences in average survival rates of polyp or average number of ephyrae produced at different temperatures which the survival rates at the end of the experiment ranged between 80.0±10.7 and 86.7±9.1% (± SE), and the average number of ephyrae released were 13.6±1.2, 15.6 ±1.9, 15.9±1.0 individual per polyp (± SE) at 25.0, 27.0 and 30.0 ° C, respectively. Increased in temperature greatly decreased the average diameter of ephyra which the largest ephyra was found at 25.0 °C (2.10±0.03a mm) while the smaller ephyrae were found at 27.0 and 30.0°C. (1.8±0.0b mm and 1.7±0.0b mm) (± SE) (p<0.01). Temperature increasing increased number of abnormal ephyrae. The highest percentage (mean±SE) was found at 30.0 °C (24.8±3.3%a) while the lower percentages were 21.1±5.5%ab and 10.1±4.9%b at 25.0 °C and 27.0 °C, respectively (p<0.01). The overall results suggest that the jellyfish polyp, Catostylus townsendi reared at 25.0 °C in the laboratory gave better results as it has no affected on the survival rate of the polyp, number of ephyra but produced larger and low percentage of abnormal ephyraen
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
ไม่มีแฟ้มใดที่สัมพันธ์กับรายการข้อมูลนี้


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น