กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3413
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC | ค่า | ภาษา |
---|---|---|
dc.contributor.author | วรรณี เดียวอิศเรศ | |
dc.contributor.author | ศิริวรรณ แสงอินทร์ | |
dc.contributor.author | รัตนาภรณ์ ตามเที่ยงตรง | |
dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์ | |
dc.date.accessioned | 2019-03-25T09:23:26Z | |
dc.date.available | 2019-03-25T09:23:26Z | |
dc.date.issued | 2560 | |
dc.identifier.uri | http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3413 | |
dc.description.abstract | การวิจัยแบบหาความสัมพันธ์เชิงทำนายนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้าน โภชนาการและปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น โดยนำแนวคิดการส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์มาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นที่มารับบริการฝากครรภ์ที่แผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลสังกัด กรุงเทพมหานคร จำนวน 97 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลปลายเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูล ส่วนบุคคล แบบสอบถามการรับรู้อุปสรรคในการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการ แบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเองในการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการแบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม และแบบสอบถามพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบนำเข้า ผลการวิจัย พบว่า หญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นมีพฤติกรรม การส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการอยู่ในระดับดี ตัวแปรที่ ศึกษาทั้งหมด ซึ่งได้แก่ การรับรู้อุปสรรคในการส่งเสริม สุขภาพด้านโภชนาการ การรับรู้ความสามารถของตนเอง ในการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการ และการสนับสนุน ทางสังคม สามารถร่วมอธิบายความแปรปรวนพฤติกรรม การส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น ได้ร้อยละ 38.8 (F3, 93 = 19.638, p < .001) โดยการรับรู้ อุปสรรคในการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการและ การรับรู้ความสามารถของตนเองในการส่งเสริมสุขภาพ ด้านโภชนาการสามารถทำนายพฤติกรรมการส่งเสริม สุขภาพด้านโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นอย่างมีนัย สำคัญทางสถิติ (ß = -.374, ß = .386, p < .001 ตาม ลำดับ) การวิจัยครั้งนี้เสนอแนะให้พยาบาลพัฒนารูปแบบการพยาบาล โดยส่งเสริมความสามารถ และลดอุปสรรคในการปฏิบัติพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการเพื่อให้หญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นมีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการที่ดีต่อไป | th_TH |
dc.language.iso | th | th_TH |
dc.publisher | คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา | th |
dc.subject | การส่งเสริมสุขภาพ | th_TH |
dc.subject | ครรภ์ในวัยรุ่น | th_TH |
dc.subject | สตรีมีครรภ์ - - สุขภาพและอนามัย | th_TH |
dc.subject | สตรีมีครรภ์ - - โภชนาการ | th_TH |
dc.title | ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น | th_TH |
dc.title.alternative | Factors predicting nutritional health-promotion behaviors among pregnant adolescents | en |
dc.type | บทความวารสาร | th_TH |
dc.issue | 1 | |
dc.volume | 25 | |
dc.year | 2560 | |
dc.description.abstractalternative | The purposes of this predictive correlational research were identify nutritional health-promoting behavior and factors predicting nutritional health-promoting behavior among pregnant adolescents. The Health Promoting Model was use as a conceptual framework in the study. The samples were 97 pregnant adolescents, who attending antenatal care at hospitals under Bangkok Metropolitan Administration. A multistage random sampling was used to recruit the sample. Data were collected from the end of May and June 2016. The questionnaires used to collect the data composed of demographic data, perceived barrier, perceived self-efficacy, social support and nutritional health-promoting behavior. Descriptive statistics and enter method multiple regression were used for data analysis. The findings showed that average score of nutritional health-promoting behavior among pregnant adolescents were a good level. The percentage of total variance explained by all study variables (perceived barrier, perceived selfefficacy and social support) was 38.8 percent (F3, 93 = 19.638, p < .001). The significant variables which predicted nutritional health-promoting behavior including perceived self-efficacy and perceived barrier (ß = -.374, ß = .386, p < .001, respectively). This study suggests that nurse should develop a nursing intervention to enhance self-efficacy and reduce barrier in order to promote nutritional behavior among pregnant adolescents. | en |
dc.journal | ารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา = Journal of faculty of nursing Burapha University | |
dc.page | 49-60. | |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | บทความวิชาการ (Journal Articles) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|
nus25n1p49-60.pdf | 235.34 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น