กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/162
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorลักษณาพร กรุงไกรเพชร
dc.contributor.authorชัยชน โพธิ์ชัย
dc.contributor.authorธัญธร นพเก้ารัตนมณี
dc.contributor.authorนทวรรณ สุขใส
dc.contributor.authorผกามาศ แซ่ฮ้อ
dc.contributor.authorอโณทัย จตุพร
dc.contributor.authorจุฑามาศ ช่อไสว
dc.contributor.authorสิวินีย์ บัวทอง
dc.contributor.authorเศรษฐชัย ฉัตรชุมสาย
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะแพทยศาสตร์
dc.date.accessioned2019-03-25T08:45:53Z
dc.date.available2019-03-25T08:45:53Z
dc.date.issued2554
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/162
dc.description.abstractการวิจัยนี้เป็นการวิจัยโดยการสังเกตเชิงวิเคราะห์ เพื่อศึกษาผลความเพียงพอของอาหารเช้าที่รับประทานกับความรู้สึกเหนื่อยล้าในช่วงการเรียนภาคเช้าของนิสิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาทั้งหมด ชั้นปีที่ 1-3 ปีภาคการศึกษาปลาย ในปีการศึกษา 2552 จำนวน 88 คน โดยแบ่งนิสิตแพทย์เป็นสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่รับประทานอาหารเช้าอยู่ในเกณฑ์เพียงพอและกลุ่มที่รับประทานอาหารเช้าอยู่ในเกณฑ์เพียงพอ จำนวน 32 คน และกลุ่มที่รับประทานอาหารเช้าอยู่ในเกณฑ์ไม่เพียงพอ จำนวน 56 คน จากการคำนวณโดยใช้เกณฑ์ของ Institute of Medicine. Washington, DC: National Academies Press และความรู้สึกเหนื่อยล้าโดยใช้แบบประเมินความเหนื่อยล้าของ IOWA Fatigue Scale และคำนวณโดยใช้สถิติทดสอบซี ผลการศึกษาพบว่า ผู้เข้าร่วมวิจัยที่รับประทานอาหารเช้าเพียงพอ ร้อยละ 36.4 ผู้เข้าร่วมวิจัยที่รับประทานอาหารเช้าไม่เพียงพอ ร้อยละ 63.6 ผู้เข้าร่วมวิจัยมีความเหนื่อยล้าในกลุ่มรับประทานอาหารเพียงพอ ร้อยละ 46.9 เมื่อทดสอบทางสถิติ พบว่า ความเพียงพอของการรับประทานอาหารเช้าไมีมีความสัมพันธ์กับความเหนื่อยล้าในช่วงเรียนภาคเช้าของนิสิตคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา (Z=09) ส่วนปัจจัยอื่นที่อาจจะมีผลเกี่ยวข้องกับความเหนื่อยล้า ได้แก่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ร้อยละ 87.50 การออกกำลังกายไม่เพียงพอ 65.91 การมีงานสะสม ร้อยละ 63.64 สรุปผลการศึกษา การรับประทานอาหารเช้าไม่มีความสัมพันธ์กับความเหนื่อยล้าในช่วงเรียนภาคเช้าของนิสิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาอย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลต่อความเหนื่อยล้า ได้แก่ ระยะเวลาในการนอน การออกกำลังกายน้อย และการมีงานสะสมth_TH
dc.description.sponsorshipผลงานวิจัยฉบับนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา งบประมาณเงินได้ ประจำปีงบประมาณ 2554en
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectความพร้อมทางการเรียนth_TH
dc.subjectนักศึกษา - - ทัศนคติ - - แง่โภชนาการth_TH
dc.subjectนักศึกษา - - โภชนาการth_TH
dc.subjectบริโภคนิสัย - - ผลกระทบทางสรีรวิทยาth_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะแพทยศาสตร์ - - วิจัยth_TH
dc.subjectอาหารเช้าth_TH
dc.titleความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานอาหารเช้ากับความเหนื่อยล้าในช่วงการเรียนภาคเช้าของนิสิตคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.th_TH
dc.title.alternativeRelationship between breakfast consumption and fatigue in the morning class among medical students, Burapha Universityen
dc.typeResearchth_TH
dc.year2554
dc.description.abstractalternativeThe analytic observational research was conducted in the relationship between adequate breakfast consumption and the fatigue in the morning classroom among 1 st to 3 rd year allmedical students who studied in Burapha University in second semester academic year 2009. The 88 medical students were divided in 2 groups by the criteria of adequate breakfast consumption. There were 32 students in the adequate group and the others were in the inadequate group. The caloric energy of food consumption among them was evaluated by the Institute of Medicine, Washington, DC: National Academies Press protocol and the fatigues were assessed by the IOWA Fatigue scale. Lastly, Z-test was used. The results of the study revealed that the adequate breakfast intake group had 36.4 percentage and another group had 63.6 percentage. and another group had 63.6 percentage. The adequate breakfast intake group had percentage of fatigue 46.9. The statistical analysis found that there was no relationship between the adequate breakfast consumption and the fatigue in the morning class among medical atudents of Burapha university (Z=.09). The other factors that might be in influential in this study were poor sleeping time (p=.00), irregular exercise (p=.00) and cumulative class-workload (p=.01). This study concluded that there was no relationship between the adequate breakfast consumption and the fatigue in the morning class among medical students. But they had some influential factors which may be concerned for examples; sleeping time, exercise and cumulative workload.en
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม ขนาดรูปแบบ 
2566_050.pdf2.51 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น