กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1484
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorเวธกา กลิ่นวิชิตth
dc.contributor.authorยุวดี รอดจากภัยth
dc.contributor.authorคนึงนิจ อุสิมาศth
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะแพทยศาสตร์
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะสาธารณสุขศาสตร์
dc.date.accessioned2019-03-25T09:07:06Z
dc.date.available2019-03-25T09:07:06Z
dc.date.issued2556
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1484
dc.description.abstractแผนงานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการดูแลผู้สูงอายุ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาสารสนเทศและจัดการความรู้ด้านสุขภาพผู้สูงอายุ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบและประเมินศักยภาพในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโยใช้การมีส่วนร่วมของชุมชน 3) เพื่อพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคเรื้อรัง 4) เพื่อพัฒนารูปแบบและประเมินศักยภาพการดูแลภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุ 5) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาชุมชนและครอบครัวต้นแบบเพื่อดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการ 6) เพื่อพัฒนามาตรฐานการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในศูนย์บริการแบบพักค้างและแบบช่วงกลางวัน และ 7) เพื่อพัฒนารูปแบบการเตรียมความพร้อมของผู้สูงอายุและครอบครัวสู่การตายอย่างสงบที่บ้านและโรงพยาบาล ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้สูงอายุ ผู้ให้บริการ ผู้ดูแลและผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลผู้สูงอายุในภาคตะวันออกของไทย วิธีดำเนินการวิจัย ใช้วิจัยเชิงพัฒนาการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม การวิจัยเชิงสำรวจ การวิจัยเชิงพรรณนา และการวิจัยเชิงคุณภาพ ระยะเวลาในการศึกษา ตั้งแต่ ตุลาคม 2556-กันยายน 2557 ผลการวิจัยในแต่ละโครงการวิจัยย่อย พบว่า 1. การพัฒนาสารสนเทศด้านสุขภาพผู้สูงอายุ พบว่า 1) สถานการณ์และปัญหาของระบบ ข้อมูลสุขภาพผู้สูงอายุ ได้แก่ การจัดเก็บข้อมูลที่หลากหลาย และมีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ การ เก็บข้อมูลเป็นลักษณะการส่งต่อข้อมูลจากหน่วยย่อยไปสู่ส่วนกลาง ไม่ได้มีฐานข้อมูลที่หน่วยงาน ตนเองสามารถสืบค้นหรือนำมาใช้ในการวางแผนหรือประเมินผลงานได้ บัญชีรายงานมีจำนวนมาก เป็นภาระของผู้จัดเก็บ เทคโนโลยีในการจัดเก็บไม่พียงพอ 2) ความต้องการระบบสารสนเทศ ได้แก่ การมีข้อมูลบริการแก่ผู้สูงอายุหรือผู้ให้บริการตามความจำเป็นและเหมาะสมกับบริบท ข้อมูลมีความถูกต้อง รวดเร็ว ทันเวลาและได้มาตรฐานสามารถเชื่อถือได้ สามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคตะวันออกควรมีศูนย์กลางบริการข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้สูงอายุในภาคตะวันออกเพื่อสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ 3) การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพผู้สูงอายุในภาคตะวันออก ประกอบด้วย 1.ฐานข้อมูลด้านระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุในภาคตะวันออก 2.ฐานข้อมูล สถานการณ์สุขภาพผู้สูงอายุในภาคตะวันออก และ 3.ฐานข้อมูลด้านพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุในภาคตะวันออก 2. รูปแบบการสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโดยใช้การมีส่วนร่วมของชุมชน พบว่า กระบวนการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชนนั้น จะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชน และกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเพื่อดูแลสุขภาพประชาชน เช่น แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาสุขภาพภาคประชาชน แนวคิดเกี่ยวกับสุขภาพ แนวคิดการสร้างพลังอำนาจ และแนวคิดการทำงานโดยอาศัยภาคเครือข่าย 3. การพัฒนารูปแบบการดูแลภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุ คือ การให้ความรู้ด้านโภชนาการ เพื่อการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย 4. เมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น มีความเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ เช่น มีนโยบายการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว การดูแลผู้สูงอายุโดยครอบครัวและ ชุมชน สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ แนวปฏิบัติที่ดี/สถาปัตยกรรม/สิ่งประดิษฐ์ สำหรับผู้สูงอายุแต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดบางอย่าง เช่น มาตรการในการดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่นจะเหมือนกันทั้งภาครัฐและเอกชน การดูแลผู้สูงอายุจะมีบริบททางวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยการดูแลผู้สูงอายุโดย ครอบครัวและชุมชนในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นมีการดำเนินการที่จะลดการพึ่งพิงของผู้สูงอายุและพยายามให้ผู้สูงอายุได้พึ่งตนเองได้ในขณะเดียวกันจากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นและผู้สูงอายุที่มีอายุยืนนานขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมีระบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุ ที่ชัดเจนมากขึ้น ดังนี้ 1)ใช้ครอบครัวและชุมชนเป็นฐานในการดูแล มีสังคมของผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมร่วมกัน 2)มีการดูแลในวิถีชีวิตประจำวัน การดูแลอนามัยพื้นฐาน 3) มีการจัดอบรม อาสาสมัครเพื่อการดูแล ผู้สูงอายุ และ 5) มีเครือข่ายในการดูแลผู้สูงอายุ 5. การเตรียมความพร้อมของผู้สูงอายุและครอบครัวสู่การตายอย่างสงบที่บ้าน ตามบริบทของภูมิภาคตะวันออก ของไทย มี ความหาย 2 แบบ คือ 1) ผู้ที่เจ็บป่วยที่บ้าน และมีอาการทรุดลง ก่อนเสียชีวิต 2) ผู้ที่รักษาที่โรงพยาบาลไม่ได้แล้ว ต้องมาดูแลเพื่อเสียชีวิตที่บ้าน การตายอย่างสงบที่บ้าน หมายถึง การตายที่หมดอายุขัย และจากไปแบบไม่ทรมาน การตายที่สงบและอบอุ่น ณ บ้านของตนเอง การตายที่ไม่รบกวนลูกหลาน การตายที่มีลูกหลานมาอยู่รอบข้าง และการตายตามธรรมชาติที่ทำให้ลูกหลานมีความสุข สบายใจ ความต้องการของผู้สูงอายุที่อยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิต มี 2 ข้อ ได้แก่ 1) การทำบุญก่อนจากไป 2) การมีโอกาสได้สั่งเสียลูกหลาน การเตรียมผู้สูงอายุและญาติ เพื่อให้ผู้สูงอายุตายอย่างสงบ ควรประกอบไปด้วย องค์ประกอบ 7 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1.การที่ลูกหลาน อยู่เคียงข้างตลอดเวลา 2. การมีเสียงพูดบอกนำทางก่อนสิ้นใจ 3.การช่วยให้ได้ทำบุญที่บ้าน 4.การที่ ลูกหลานช่วยให้หมดความห่วงกังวล 5.การดูแลความสุขสบาย คอยช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน 6.การ ที่ลูกหลานทำให้ตามที่รับปากไว้ 7.การจัดเตรียมสิ่งของตามความเชื่อไว้ให้ก่อนการตาย 6. การเตรียมความพร้อมของผู้สูงอายุและครอบครัวสู่การตายอย่างสงบที่โรงพยาบาล ตามบริบทของภาคตะวันออก ของไทย พบว่า 1) ในทัศนะของผู้สูงอายุ มีความต้องการการดูแล ในระดับ มากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจและและเสริมสร้างคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่น การต้องการให้ครอบครัวยอมรับการตายของตนไม่เศร้าเสียใจมาก การต้องการให้อภัยและขอบคุณผู้คน การขอจากไปโดยแวดล้อมท่ามกลางคนที่ตนรัก และลูกหลาน 2) ทัศนะของญาติและสมาชิกในครอบครัว มีความต้องการการดูแลผู้สูงอายุด้านร่างกาย การป้องกันและแก้ปัญหารายบุคคลแก่ผู้สูงอายุรวมทั้งการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้สูงอายุอย่างเพียงพอ 3) ทัศนะต่อการตายอย่างสงบที่โรงพยาบาลของผู้สูงอายุและครอบครัว มีทัศนะในเชิงบวก โดยเชื่อมั่นได้ว่าการตายนี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างดีที่สุดแล้วจากแพทย์พยาบาลเพื่อให้มีชีวิตรอด โดยญาติและครอบครัวจะได้รับการช่วยเหลือดูแลหลังที่ตนเสียชีวิตแล้วจากบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นผู้มีความรู้ มีจรรยาบรรณวิชาชีพ สภาพของผู้เสียชีวิตจะได้รับการปกป้องดูแลอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และต้องการให้เพิ่มความใกล้ชิด เห็นอกเห็นใจ ให้ความยืดหยุ่นแก่ญาติและผู้ป่วยระยะสุดท้ายโดยให้ความดูแลอย่างเอื้ออาทร และผ่อนปรนกฎระเบียบลงบ้าง ควรมีการจัดสถานที่เฉพาะ มีความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ป่วยที่จะเสียชีวิตให้ญาติและครอบครัวมีโอกาสได้ล่ำลาเป็นครั้งสุดท้ายอย่างสมเกียรติและมีความเหมาะสม ควรมีการฝึกอบรมการใช้คำพูดและกิริยาที่แสดงความเคารพและให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัว แพทย์ควรแจ้งพยากรณ์ของโรคและสื่อสาร ถ่ายทอดให้ผู้ป่วยและญาติรับรู้อย่างเข้าใจเพื่อสามารถเตรียมการได้อย่างมีสติก่อนที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตหรือใกล้เสียชีวิตth_TH
dc.description.sponsorshipสนับสนุนโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555en
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectคุณภาพชีวิตth_TH
dc.subjectผู้สูงอายุth_TH
dc.subjectสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์th_TH
dc.titleการพัฒนาสารสนเทศด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ (ปีที่ 1)th_TH
dc.title.alternativeMeta-analysis of research on elderly in eastern region of Thailanden
dc.typeResesrch
dc.year2556
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this research project was developing integrated aging care model and Sub-objectives were 1) developing and sharing aging health information 2) development Health promotion model and evaluation health promotion potential in elderly 3) developing Health care standard for elderly with chronic illness 4) development nutritional care model and Nutritional assessment in elderly 5) development prototype of community and family for Integrated aging health care 6) developing aging health care standard in nursing home and Day care 7) development home-based and hospital based peaceful dying preparation for Elderly at the end of life. The population of this research project was the elderly, the provider And the care giver in eastern region of Thailand. Research methodologies were research and Developing, participatory action research, survey and descriptive research and qualitative Research. Study time since October 2013 to September 2014. It was found that; 1. The health information for elderly revealed that 1) the problems situation in health Information of the elderly were various data collected, several authorized responsibility, data Transfer system usually transfer from the unit optimize to the center but they cannot use this Data to draw their plan or evaluate their works, many report and not enough technology for Storage data. 2) Health information needs for elderly were necessary and appropriate Information system for elderly and providers and easy to access for using. 3) the development of health information systems for the elderly in the eastern region contained of 1.Database on health care system for the elderly consisting of the health service, access to Health service, standard of the hospital, rate of service and health assurance 2.Database on Health situation consisting of infectious diseases, emerging diseases, chronic diseases, Mental health and risk factors for the diseases. 3.Database on health behaviors for the elderly consisting of health factors, wisdom in health care of the community, health behaviors and health care potential. 2. The health promotion model for elderly in eastern region needs participatory Processes with empowerment for developing their including working with health care network. 3. The nutrition care model for elderly consisted of nutritional education continuously And exercise for improving their quality of life.. 4. The comparative health care in elderly between Japan and Thailand found similar in long term care policy, community and family based, welfare and innovative universal architected designs for elderly and different in some details such as; in Japan protocol for the elderly in public and private sectors were the same protocol but in Thailand was different, cultural of the country. The important issues for improving health care pattern for elderly in Thailand were 1) Community and family based help for setting elderly society and created more activities together. 2) Daily care with basic hygiene care for elderly 3) Volunteer training for elderly health care 4) Elderly care business and 5) the elderly care worker network. 5. Preparing of death and dying peaceful in home-based for the eastern elderly and Their family were 2 types; 1) Sickness and dying at home 2) Sickness in hospital and refer to Dying at home. Home-based dying peaceful means de-function, dying at their home, dying Around their descendant and doesn’t obligate their family. The end of life care at home of the Eastern elderly needs 2 aspects namely; 1) Make merit before die and 2) Give parting Instructions and has 7 items to prepare; 1) Beside 2) Softly voice to passing this moment 3) Make merit 4) Help to release their concern 5) Comfortably daily care 6) Do covenant and 7) Prepare on their believe. 6. Preparing of death and dying peaceful in hospital-based for the eastern elderly And their family found that 1) The most of elderly end-of-life care needs were mental and Spiritual needs for support and promote their value and dignity such as they need their family Will not grief when they die, they need to forgive and say thank you to some people, they need to die surrounding with people who love and their children. 2) the most of family member’s end-of-life care needs were physical health care for prevent and solving elderly problems including get enough health information from the physicians and health care workers 3) Perception of peaceful end-of-life at hospital in elderly and family members were in positive way by trustful that they has been optimally help from the medical doctor to have survived. Relatives and family members assure to get help and care from medical personnel with professional ethics after they die. Condition of deceased will be completely protected human dignity. Wish to increase the intimacy to the relatives and family members of the elderly who pass away and flexibility for providing caring or lenient the rules of hospital. Death at hospital should be provided room or location for privacy patient, the relatives and Their family have a last farewell with honor and decency. Should be trained to use words and Actions to show respect and honor to the deceases and their family, Physicians should indentify predictors and communication to patients and their family to realized that in order to prepared before elderly patient death or near death.en
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
ไม่มีแฟ้มใดที่สัมพันธ์กับรายการข้อมูลนี้


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น