กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1444
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorศรสุภา ลิ้มเจริญth
dc.contributor.authorอดิสรณ์ บุญญฤทธิ์th
dc.contributor.authorอลิสรา วงศ์สุทธิเลิศth
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะแพทยศาสตร์
dc.date.accessioned2019-03-25T09:07:04Z
dc.date.available2019-03-25T09:07:04Z
dc.date.issued2557
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1444
dc.description.abstractการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยแบบย้อนหลัง( Retrospective analytic cross sectional study) โดยศึกษาจากเอกสารเวชระเบียนผู้ป่วยเด็กอายุ 1-16 ปีที่ได้รับการทำอัตร้าซาวด์เนื่องจากสงสัยเป็นไส้ติ่งอักเสบ ตั้งแต่เดือน มกราคม พ.ศ. 2552 ถึง เดือน ธันวาคม พ.ศ.2555 การใหการวินิฉัยไส้ติ่งอักเสบ โดยอัลตร้าซาวด์เมื่อเส้นผ่าศูนย์กลางของไส้ติ่งมากกว่า 6 มิลลิเมตร ถ้าอัลตร้าซาวด์ไม่พบไส้ติ่งจะพิจารณาแยกออกเป็นอีกกลุ่ม นำผลอัลตร้าซาวด์มาเปรียบเทียบกับผลการผ่าตัด และชิ้นเนื้อ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการผ่าตัดถือเอาการวินิจฉัยของแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยก่อนอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเป็นเกณฑ์ และวิเคราะห์แยกกลุ่มย่อยเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้รับการผ่าตัด รวมถึงเด็กเล็ก (อายุ 1-10 ปี) กับเด็กโต (อายุ 11-16 ปี) กับระหว่างเพศ ผลการวิจัย อัลตร้าซาวด์พลไส้ติ่งใน 270/428 ราย (63.1 %) อัลตร้าซาวด์มีความไวในการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบในกลุ่มเด็กโดยรวม 71.2% ( 95%CI:56.9%-82.9%) ความจำเพาะ 97.7% (95%CI:94.7%-99.3% ) ค่าพยากรณ์ผลบวก 88.1% (95%CI:74.4%-96.0%) ค่าพยากรณ์ผลลบ 93.4% ( 95%CI:89.4%-96.3%) ค่าความแม่นยำ 92.6% โดยมีค่า ROC เท่ากับ 0.84 ค่าความจำเพาะ ( 47.1% ) ค่าพยากรณ์ผลลบ ( 61.5% ) และความแม่นยำ ( ( 76.3% ) มีค่าน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในกลุ่มที่ได้รับการผ่าตัด ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติภาพของอัลตร้าซาวด์ระหว่างเพศ หรือระหว่างกลุ่มเด็กเล็กกับเด็กโต ยกเว้นในกลุ่มเด็กเล็กจะมีค่าพยากรณ์ผลบวกต่ำกว่าเด็กโต สรุปผลการวิจัย อัลตร้าซาวด์มีประสิทธิภาพมากพอในการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาในการวินิจฉัยจากประวัติและการตรวจร่างกาย ควรนำมาใช้เป็นอันดับแรกในการส่งตรวจทางรังสีวิทยา เพื่อช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการวินิจฉัยล่าช้า ลดระยะการพักฟื้นในโรงพยาบาล และลดอัราการผ่าตัดที่ไม่จำเป็นth_TH
dc.description.sponsorshipรายงานวิจัยนี้ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัย งบประมาณเงินรายได้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556en
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์th_TH
dc.subjectอัลตร้าซาวด์th_TH
dc.subjectไส้ติ่งอักเสบth_TH
dc.titleประสิทธิภาพในการประเมินภาวะไส้ติ่งอักเสบด้วยอัลตร้าซาวด์ในกลุ่มผู้ป่วยเด็กth_TH
dc.title.alternativeEfficacy of ultrasonography in evaluation of suspected appendicities in pediatric populationth_TH
dc.typeResearchth_TH
dc.year2557
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this study was to evaluate the efficacy of ultrasound(US)for the diagnosis of acute appendicitis in children. Materials and methods We reviewed all sonograms for acute appendicitis in children from January 2009 to December 2012. Sonographic findings were positive when the largest axial diameters were more than 6 mm. The sonograms that were unable to find the appendix were classified into the other group and were considered separately. Sonographic findings were compared with surgical pathologic findings or discharge diagnoses in cases of no surgery. Subgroup analysis in the surgical group, including patient age ( < 11 years or 11-16 years) and sex were also perfomed. Results The appendix was identified in 270/428 cases ( 63.1%). The sensitivity was 71.2%(95%CI:56.9%-82.9%), specificity 97.7%( 95%CI:94.7%-99.3%), positive predictive value 88.1%(95% CI:74.4%-96.0%), negative predictive value 93.4%(95% CI:89.4%-96.3%), accuracy 92.6%, and ROC = 0.84. The specificity ( 47.1%), negative predictive value (61.5%), and accuracy (76.3%) were significant lower in the surgical group. The efficacy of US between the sexes and age groups showed no significant difference, except the lower positive predictive values in the younger age group. Conclusion US efficacy for the diagnosis of appendicitis in children is high enough to use as an imaging of first choice to reduce complications, hospital stay, and negative appendectomy rate.en
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม ขนาดรูปแบบ 
2566_039.pdf1.94 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น