กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/12606
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC | ค่า | ภาษา |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | นิภา มหารัชพงศ์ | |
dc.contributor.advisor | ปาจรีย์ อับดุลลากาซิม | |
dc.contributor.author | วิไลลักษณ์ จันทร์แผง | |
dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะสาธารณสุขศาสตร์ | |
dc.date.accessioned | 2024-01-25T08:45:01Z | |
dc.date.available | 2024-01-25T08:45:01Z | |
dc.date.issued | 2559 | |
dc.identifier.uri | https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/12606 | |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.) -- มหาวิทยาลัยบูรพา, 2560 | |
dc.description.abstract | การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมสร้างเสริมพฤติกรรม การใช้เครื่องสำอางของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 จังหวัด กรุงเทพมหานคร โดยประยุกต์ทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อการป้องกันโรค กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่ม จำนวน 2 โรงเรียน โดยแบ่งเป็นโรงเรียนที่เป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม โรงเรียนละจำนวน 35 คนเท่า ๆ กัน ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา คือ 9 สัปดาห์ โดยแบ่งเป็นระยะที่กลุ่มทดลองได้เข้าร่วมโปรแกรมฯ จำนวน 5 สัปดาห์ และระยะติดตามผล จำนวน 4 สัปดาห์ เก็บรวมรวมข้อมูลโดยใช้ แบบสอบถามพัฒนาขึ้นโดยประยุกต์ทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อการป้องกันโรคประกอบด้วย การรับรู้ ความรุนแรงของการใช้เครื่องสำอางอันตราย การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเลือกใช้เครื่องสำอาง ความคาดหวังในความสามารถของตนเองต่อการเลือกใช้เครื่องสำอาง ความคาดหวังในผลลัพธ์ของการเลือกซื้อเครื่องสำอาง และความตั้งใจในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการใช้เครื่องสำอางอันตราย การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาแสดงเป็นค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างด้วยสถิติ Independent t-test และ Paired t-test ผลการวิจัยพบว่า หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยการรับรู้ความรุนแรง การรับรู้โอกาสเสี่ยง การรับรู้ความสามารถของตนเองในการป้องกันเครื่องสำอางอันตราย และความคาดหวังผลลัพธ์ในการป้องกันเครื่องสำอางอันตรายสูงกว่าก่อนการทดลองและสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P-value < .05) แต่อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มทดลองไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างก่อนและหลังการทดลองในเรื่องความตั้งใจปฏิบัติ ตนป้องกันเครื่องสำอางอันตราย และกลุ่มเปรียบเทียบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของทุกตัวแปรภายหลังการทดลอง การจัดโปรแกรมสร้างเสริมพฤติกรรมการใช้เครื่องสำอางเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เครื่องสำอางและพฤติกรรมเสี่ยงในการเลือกซื้อเครื่องสำอางของนักเรียนสามารถเพิ่มการรับรู้ความรุนแรง การรับรู้โอกาสเสี่ยง ความคาดหวังผลลัพธ์และการรับรู้ความสามารถของตนเอง ในการป้องกันการใช้เครื่องสำอางอันตราย ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีพฤติกรรมการเลือกใช้เครื่องสำอางที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นได้ | |
dc.language.iso | th | |
dc.publisher | คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา | |
dc.rights | มหาวิทยาลัยบูรพา | |
dc.subject | นักเรียน -- การปรับพฤติกรรม | |
dc.subject | นักเรียน -- พฤติกรรม | |
dc.subject | Humanities and Social Sciences | |
dc.subject | มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาการสร้างเสริมสุขภาพ | |
dc.title | ผลของโปรแกรมสร้างเสริมพฤติกรรมการใช้เครื่องสำอางของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 จังหวัดกรุงเทพมหานคร | |
dc.title.alternative | Effect of consumer helth promoting progrm on cosmetics usge behvior mong students in secondry eductionl service re office 1 bngkok | |
dc.type | วิทยานิพนธ์/ Thesis | |
dc.description.abstractalternative | The purpose of this quasi-experimental study was to evaluate the effect of a consumer health promoting program on cosmetics usage behavior among students based on Protection Motivation Theory in secondary educational service area office 1 Bangkok. The samples were randomly recruited from two schools in secondary educational service area office 1 Bangkok. One school was assigned to an experimental group received the program, and the another school was assigned to a control group, 35 students of each school were randomly recruited into the study groups. The study period was nine weeks with 5 weeks for intervention period and 4 weeks for follow-up period. Data were collected using self-administered questionnaires, developed by the application of the protection motivation theory including perceived severity of harmful cosmetics usage, perceived susceptibility, self-efficacy expectation, outcome expectation of cosmetics usage, and intention to practice of harmful cosmetics usage protection. Statistical analysis was performed by using percentage, mean, standard deviation, Independent t-test, and Paired t-test. The results revealed that, after intervention period the experimental group had significantly higher perceived severity, perceived susceptibility, self-efficacy expectation, and outcome expectation mean scores than the control group (p < 0.05). However, no significant differences in intention to practice of harmful cosmetics usage protection were found between the experimental and the control group. No statistical significant changes were found in the control group. ช The cosmetics usage behavior promoting program had the potential to increase perceived severity, perceived susceptibility, self-efficacy expectation, and outcome expectation in preventing harmful cosmetics usage and leading to have an increasing safe cosmetics usage behavior among students. | |
dc.degree.level | ปริญญาโท | |
dc.degree.discipline | การสร้างเสริมสุขภาพ | |
dc.degree.name | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต | |
dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยบูรพา | |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | วิทยานิพนธ์ (Theses) |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
Fulltext.pdf | 1.01 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น