กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1156
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorทวีชัย สำราญวานิช
dc.contributor.authorทักษิณ ทองลี
dc.contributor.authorศิริลักษณ์ ขุมทอง
dc.contributor.authorนัฐภา ภาระศรี
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.date.accessioned2019-03-25T09:01:20Z
dc.date.available2019-03-25T09:01:20Z
dc.date.issued2550
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1156
dc.description.abstractงานวิจัยนี้นำเสนอผลกรทบของสารปอซโซลานต่อโครงสร้างโพรงช่องว่างของซีเมนต์เพสต์ โดยสารปอซโซลานที่ศึกษาคือเถ้าลอย ทำการล่อตัวอย่างซีเมนต์เพสต์ที่อัตราส่วนผสมต่าง ๆ กัน ทั้งอัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสาน อัตราส่วนการแทนที่วัสดุปรสานด้วยเถ้าลอยและประเภทของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ จากนั้นนำชิ้นส่วนจากตัวอย่างมาทดสอบหาโครงสร้างโพรงช่องว่างภายในซีเมนต์เพสต์ด้วยวี Merecury intrusion porosimetry (MIP) เพื่อหาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยของโพรงช่องว่างและความพรุนทั้งหมดของซีเมนต์เพสต์ จากผลการศึกษาพบว่า ทั้งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยของโพรงช่องว่างและความพรุนทั้งหมดของซีเมนต์เพสต์มีค่าเปลี่ยนแปลงตามเวลา โดยเมื่ออายุซีเมนต์เพสต์มากขึ้นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยของโพรงช่องว่างและความพรุนทั้งหมดของซีเมนต์มีค่าลดลง เมื่อใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ III ในซีเมนต์เพสต์จะทำให้ทั้งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยของโพรงช่องว่างและความพรุนทั้งหมดของซีเมนต์มีค่าน้อยกว่าเมื่อใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ I และ V และเมื่อใช้เถ้าลอยแทนที่บางส่วนของวัสดุประสานในอัตราส่วนที่เหมาสมแล้วทำให้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยของโพรงช่องว่างของซีเมนต์เพสต์ลดลง แต่ความพรุนทั้งหมดสูงขึ้นกว่าซีเมนต์เพสต์ล้วน สุดท้ายได้เสนอสมการเพื่อหาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยของโพรงช่องว่างและความพรุนทั้งหมดของซีเมนต์เพสต์ที่เปลี่ยนแปลงตามอายุของซีเมนต์เพสต์ผสมเถ้าลอยด้วย This research is aimed to present the effect of pozzolanic material on the pore structure of cementpaste. He pozzolanic material in his sudy is fly ash. The specimens were cast with different mix proportion such as water to binder ratio, fly ash to binder ratio and type of Portland cement. The particles of specimen were selected to investigate the pore structure of cement paste by the method of mercury intrusion porosimetry (MIP) which can determine the average pore diameter of poe and he total porosity of cement paste. From the experimental results, it was found ha he average pore diameter and the total porosity of cement paste were time-dependent. When the age of concrete increased, the average pore diameter and the total porosity of cement paste decreased, Type III Portland cement resulted in smaller average pore diameter and total porosity than type I and V Portland cements. The use of fly ash as partial replacement of binder a appropriate content led to smaller average pore diameter, but higher total porosity than cement paste only. Finally, the equation to determine the time-dependent average pore diameter and total porosity of cement paste were proposed.th_TH
dc.description.sponsorshipสนับสนุนโดยทุนอดหนุนการวิจัยและพัฒนา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาen
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectซีเมนต์เพสต์th_TH
dc.subjectสารปอซโซลานth_TH
dc.subjectเถ้าลอยth_TH
dc.subjectโครงสร้างโพรงช่องว่างth_TH
dc.subjectสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย
dc.titleผลของสารปอซโซลานต่อความพรุนของเพสต์th_TH
dc.typeงานวิจัยth_TH
dc.year2550
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
ไม่มีแฟ้มใดที่สัมพันธ์กับรายการข้อมูลนี้


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น