dc.contributor.advisor |
ภัสนันท์ พ่วงเถื่อน |
|
dc.contributor.author |
เสาร์คำ ใส่แก้ว |
|
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2023-09-18T07:36:23Z |
|
dc.date.available |
2023-09-18T07:36:23Z |
|
dc.date.issued |
2563 |
|
dc.identifier.uri |
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/9975 |
|
dc.description |
วิทยานิพนธ์ (ร.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2563 |
|
dc.description.abstract |
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักธรรมาภิบาลในกระบวนการยุติธรรมของคณะสงฆ์จังหวัดชลบุรี 2. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรค ในกระบวนการยุติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดชลบุรี 3. เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาตามหลักธรรมาภิบาล สำหรับการปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดชลบุรีการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ เจ้าคณะปกครอง พระวินยาธิการ และฆราวาส จากนั้นวิเคราะห์ของมูลแบบสามเส้าและนำเสนอด้วยการพรรณนา บรรยาย ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการยุติธรรมของคณะสงฆ์จังหวัดชลบุรีด้านนิติธรรมได้ดำเนินการ และลงโทษตามพระธรรมวินัย กฎหมายคณะสงฆ์ และกฎหมายบ้านเมือง ด้านการมีส่วนร่วม มีการร่วมกันลงพื้นที่กับเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งมีการส่งตัวผู้กระทำความผิดให้แก่เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีด้านความรับผิดชอบ การลงพื้นที่เน้นการเจรจาพูดคุยเกลี้ยกล่อม และการลงโทษจะมีการบันทึกสำนวนคดี และเซ็นรับรองจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานพบว่า มีความสับสนเรื่องการตีความโทษโลกวัชชะ ทั้งคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ภาครัฐการประสานงานมีลักษณะเป็นระบบอุปถัมภ์ ซึ่งการประสานงานจะมีเพียงเฉพาะกลุ่ม เกิดกระแสสังคมด้านลบต่อการทำงาน รวมทั้งเกิดความอึดอัดในการปฏิบัติงาน แนวทางการแก้ไขปัญหา หลักนิติธรรม เสนอให้มีการกระจายอำนาจ โดยแยกระบบงานยุติธรรมออกจากงานปกครอง หลักการมีส่วนร่วม เสนอให้มีการอบรมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับพระวินยาธิการ หลักความรับผิดชอบ เสนอให้พระวินยาธิการควรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนในพื้นที่มีความชำนาญด้านการสื่อสาร เพื่อช่วยในการประสานงาน |
|
dc.language.iso |
th |
|
dc.publisher |
คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
|
dc.rights |
มหาวิทยาลัยบูรพา |
|
dc.subject |
สงฆ์ -- กฎและการปฏิบัติ |
|
dc.subject |
มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม |
|
dc.subject |
ธรรมรัฐ -- ไทย -- ชลบุรี |
|
dc.title |
หลักธรรมาภิบาลในกระบวนการยุติธรรมของคณะสงฆ์ในจังหวัดชลบุรี |
|
dc.title.alternative |
Good governnce in the sngk's justice process in chonburi province |
|
dc.type |
วิทยานิพนธ์/ Thesis |
|
dc.description.abstractalternative |
The objective of this study is to study the performance of Chonburi Province Sangka
justice process and to propose better solutions to the problems. This study is the qualitative
research using indepth interview from key informants – the high-rank monks, the police monks
(Phra Vinayathikan) and seculars, and then analysed in methodological triangulation and finally
presented in descriptive and inductive analysis.
The result shows that the justice process is carried out according to the doctrine and
discipline of Dhamma-Vinaya (Law of the Sangka) and the national law. There’s the coordination
with the government officers in arresting and sending offenders after the religious punishment. In
the fieldwork, it is focused on persuasion and negation. The punishment is recorded and signed by
those involved. The problem found in this study is the confusion in interpretation of worldly fault
(Lokavajja). Moreover, the coordination seems to depend on the patronage system which may
lead to negative social opinion and embarrassing work. The solation for these problems is that the
justice system should be decentralized and have clear-cut in duty between the justice system and
the administrative work. In the participation, it is suggested to offer bilateral training between the
government officials and Phra Vinayathikan (Police monks). As for the responsibility, the police
monks are expected to have good interaction with the people in the community and be skilled
with good communication in order to make a good move. |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.discipline |
การบริหารงานยุติธรรมและสังคม |
|
dc.degree.name |
รัฐศาสตรมหาบัณฑิต |
|
dc.degree.grantor |
มหาวิทยาลัยบูรพา |
|