สัมพันธภาพในครอบครัวของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

วราพร สงค์ทอง

dc.contributor.advisor	เอกวิทย์ มณีธร
dc.contributor.author	วราพร สงค์ทอง
dc.contributor.other	มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์
dc.date.accessioned	2023-06-06T04:02:25Z
dc.date.available	2023-06-06T04:02:25Z
dc.date.issued	2561
dc.identifier.uri	https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/8600
dc.description	งานนิพนธ์ (ร.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
dc.description.abstract	การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเพื่อการศึกษาสัมพันธภาพในครอบครัวของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่อําเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด และเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของระดับสัมพันธภาพในครอบครัวของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่อําเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด จําแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ การแจกแจงความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) การหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ในการทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t - Test สําหรับตัวแปร เพศ และสถิติ One - way Anova สําหรับตัวแปรอายุ เกรดเฉลี่ย สถานะภาพทางครอบครัว และขนาดครอบครัวที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติ 0.05 หรือความเชื่อมั่น 95% ผลการวิจัย สัมพันธภาพในครอบครัวของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่อําเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ประชาชนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิง มากกว่าเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 69.1 ส่วนใหญ่มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 13 - 14 ปี คิดเป็นร้อยละ 36.8 มีเกรดเฉลี่ย0.00-1.99 มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 43.5 มีสถานะภาพทางครอบครัวมีพ่อ แม่ลูก มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 22.8 และส่วนใหญ่มีขนาดครอบครัวมีบุตรตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 64.2 ส่วนที่ 2 ผลการสํารวจสัมพันธภาพในครอบครัวของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่อําเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า มีสัมพันธภาพ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( x = 4.24)
dc.language.iso	th
dc.publisher	คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.rights	มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.subject	มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม
dc.subject	ความสัมพันธ์ในครอบครัว
dc.title	สัมพันธภาพในครอบครัวของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
dc.title.alternative	Fmily reltionship of secondry school students in mphoemung. roied
dc.type	วิทยานิพนธ์/ Thesis
dc.description.abstractalternative	Thesis Supervisor Committee: Asst.Prof. Acting Sub Lt.Ekkawit Maneethorn, Ph.D. and Asso.Prof.(Special) Pol.Col. Pakorn Maneepakorn, Ph.D., page, 2017. This research purposed for studying the family relationship of secondary students in Amphoe Muang, Roied, which classified as personal information. An appliance used in this research is the questionnaires. The statistical used for the research is the frequency distribution and percentage. Estimating the Mean (x ̅) and Standard Deviation (SD). To examine the research’s hypothesis with t-Test statistic for variables, including Gender. Besides, the One-way ANOVA statistic for other variables, including Age, Grade results Mean of the family’s status and the family’s density at a statistically significant level of 0.05 or 95% of the reliability. The research summary indicates the family’s relationship with the Secondary school students in Amphoe Muang, Roied as Part I: General information of respondents found that majority of sampling population are women rather than men, calculated as 69.1 (percentage). Most of them are in age range of 13 – 14 years old, calculated as 36.8 (percentage). Highest grade results in the range of 0.00 1.99, calculated as 43.5 (percentage). The completed family’s status, calculated as 22.8 (percentage), and each family generally includes children from 4 up, calculated as 64.2 (percentage). Part II: The research result explores that the overall of family’s relationship of Secondary school students in Amphoe Muang, Roied, are in the highest level ( X = 4.24)
dc.degree.level	ปริญญาโท
dc.degree.discipline	การบริหารงานยุติธรรมและสังคม
dc.degree.name	รัฐศาสตรมหาบัณฑิต
dc.degree.grantor	มหาวิทยาลัยบูรพา