DSpace Repository

ผลร่วมกันของยาต้านเบต้าแอดรีเนอร์จิกรีเซพเตอร์และแองจิโอเทนซินรีเซพเตอร์ต่อการดำเนินโรคระยะแรกในภาวะหัวใจล้มเหลว

Show simple item record

dc.contributor.author เพชรรัตน์ ตรงต่อศักดิ์ th
dc.contributor.author อาดูลย์ มีพลู th
dc.contributor.author จันทรวรรณ แสงแข th
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะสหเวชศาสตร์
dc.date.accessioned 2019-03-25T08:54:46Z
dc.date.available 2019-03-25T08:54:46Z
dc.date.issued 2549
dc.identifier.uri http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/845
dc.description.abstract การดำเนินโรคในภาวะหัวใจล้มเหลวมีความสัมพันธ์กับการกระตุ้นประสาทซิมพาเธติคและ rennin-angiotensin system มากกว่าปกติ จึงได้มีการเสนอแนะว่าการรักษาโดยการให้ยาที่มีผลปิดกั้น β-adrenergic receptors และ angiotensin II receptors พร้อมกันน่าจะช่วยชะลอการดำเนินโรคและช่วยปรับให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น การศึกษานี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อทดสอบผลร่วมกันของยา angiotensin receptor blocker (ARB) และ β-blocker (BB) ในรูปแบบการทดลองโดยใช้ norepinephrine infusion เพื่อเหนี่ยวยำให้เกิดพยาธิสภาพคล้ายในภาวะหัวใจล้มเหลว การทดลองได้แบ่งหนูขาวออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ (1) กลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับยาใดๆ (CLRT), (2) กลุ่มที่ให้ norepinephrine infusion (NE) ทางใต้ผิวหนังในขนาด 100 µg/kg/d, (3) กลุ่มที่ให้ NE infusion และให้ยา BB (propranolol 15 mg/kg/d) (ARB+BB) การให้ยาแก่หนูขาวใช้วิธีละลายยาในน้ำกินและให้ยาเป็นระยะเวลา 14 วัน ผลการทดลองพบว่า กลุ่ม NE จะมีการเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญของ cardiac mass index, left ventricular (LV) mass index, ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ และการสะสมของ collagen ในผนังของ interventricular septum และ LV การให้ยา BB และ ARB+BB สามารถทำให้ดัชนีเหล่านี้ลดลง โดยยา ARB+BB นั้นมีแนวโน้มลด hypertrophic mass index และการสะสมของ collagen ได้มากกว่า แต่ยา BB มีแนวโน้มลดขนาดของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจมากกว่า การประเมินการทำงานของหัวใจได้ใช้วิธีการทดลองแบบ isoproterenol 10-9M and 10-6 M ตามลำดับการทดลองพบว่าหัวใจกลุ่ม NE มีการเสื่อมในหน้าที่ทั้งในช่วงบีบตัวและคลายตัว ดังจะเห็นได้จากมรการลดลงของค่า LV pressure, dP/dt max และ dP/dt min นอกจากนี้ยังพบว่าค่า ventricular end diastolic pressure (VEDP) สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ การให้ยา BB ไม่สามารถป้องกันการเสื่อมหน้าที่ของหัวใจที่เกิดจาก NE ได้ แต่มีผลให้ VEDP ลดลงเล็กน้อย การให้ยา ARB+BB นั้นสามารถปรับการทำงานของหัวใจทั้งในช่วงบีบตัวและคลายตัวให้ดีขึ้น ได้บางส่วนขณะถูกกระตุ้นในระดับต่ำ แต่เมื่อกระตุ้นอย่างแรงก็พบการเสื่อมหน้าที่ได้ โดยสรุปผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า การให้ยา ARB และ BB ร่วมกันสามารถปรับการทำงานของหัวใจให้ดีขึ้นได้บางส่วนและป้องกันการเกิด cardiac hypertrophy และ fibrosis ซึ้งถูกเหนี่ยวนำให้เกิดโดย NE การให้ non-selective β-blocker ในขนาดยาที่สูงไม่สามารถปกป้องการทำงานของหัวใจได้ th_TH
dc.description.sponsorship โครงการวิจัยนี้ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยงบประมาณแผ่นดินปี 2548-2549 มหาวิยาลัยบูรพา
dc.language.iso th th_TH
dc.publisher คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา th_TH
dc.subject มหาวิทยาลัยบูรพา. ภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ - - วิจัย th_TH
dc.subject หัวใจ - - โรค th_TH
dc.subject หัวใจวาย - - การรักษาด้วยยา th_TH
dc.subject หัวใจวาย th_TH
dc.title ผลร่วมกันของยาต้านเบต้าแอดรีเนอร์จิกรีเซพเตอร์และแองจิโอเทนซินรีเซพเตอร์ต่อการดำเนินโรคระยะแรกในภาวะหัวใจล้มเหลว th_TH
dc.title.alternative Combined effects of B-adrenergic blocker and angiotensin receptor blocker on the early progression of heart failure en
dc.type งานวิจัย th_TH
dc.year 2549
dc.description.abstractalternative The progression of heart failure is associated with hyper-activation of sympathetic nerve and rennin-angiotensin system. It has been proposed that combined blockade of β-adrenergic receptors and angiotensin II receptors may prevent theprogression of heart failure and improve cardiac function. The purpose of this study was to investigate the combined effects of angiotensin receptor blocker (ARB) and β-blocker (BB) in a model of norepinephrine-infusion imitating the pathological condition of heart failure. Rats were separated into 4 groups as follows: (1) non-treated control (CTRL); (2) norepinephrine treatment by subcutaneously infusion at 100 µg/kg/d (NE); (3) NE infusion with BB treatment (propranolol 20 mg/kg/d; BB); (4) NE infusion with combined treatment of ARB (losartan 15 mg/kg/d) and BB (propranolol 15 mg/kg/d) (ARB+BB). The druge were dissolved in drinking water and all treatment were continued for 14 days. NE significantly increased cardiac mass index, left ventricular (LV) mass index, myocyte diameter and collagen deposition in inter-ventricular septum and LV. Both BB and ARB+BB treatment reversed these changes. ARB+BB showed a tendency to have more pronounced effects on hypertrophic mass index and the amount of collagen, whereas BB exhibited more intense effect on myocyte size. Cardiac function was assessed using isolated heart perfusion upon the low and high stimulation with isproterenol 10-9M and 10-6 M respectively. NE showed a systolic and diastolic dysfunction, as indicated by decreases in LV pressure, dP/dt max and dP/dt min, as well as an insignificantly higher ventricular end diastolic pressure (VEDP) compared to CTRL. BB could not prevent cardiac dysfuntion induced by NE, except for the slightly decrease in VEDP. In comparison, ARB+BB partly preserved systolic and diastolic functions during low stimulation, but not at high stimulation. In conclusion, the findings demonstrated that combined treatment with ARB and BB could partly improve cardiac function and prevent cardiac hypertrophy and fibrosis induced by NE. Moreover, treatment with non-selection B-blocker at high dose could not preserve cardiac function en


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account