DSpace Repository

ปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องของประชาชนในเขตภาคตะวันออก

Show simple item record

dc.contributor.advisor สุรีพร อนุศาสนนันท์
dc.contributor.advisor ฉัตรกมล สิงห์น้อย
dc.contributor.advisor นฤพนธ์ วงศ์จตุรภัทร
dc.contributor.author สุพัตรา รักษาสนธิ์
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
dc.date.accessioned 2023-05-12T07:34:27Z
dc.date.available 2023-05-12T07:34:27Z
dc.date.issued 2561
dc.identifier.uri https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/8112
dc.description ดุษฎีนิพนธ์ (ปรด)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องของประชาชนในเขตภาคตะวันออกกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนที่ออกกำลังกายในสถานออกกำลังกายและสวนสาธารณะในเขตภาคตะวันออกอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 390 คน เป็นเพศชาย 227 คน และเพศหญิง 162 คน ที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติพื้นฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) การวิเคราะห์เปรียบเทียบ t-test for independent sample และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ Multiple regression analysis โดยวิธี Stepwise ผลการศึกษาพบว่า 1. ปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องของประชาชนในเขตภาคตะวันออกอย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ได้แก่ เจตคติและแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการออกกำลังกาย ส่วนปัจจัยด้านการรับรู้ความสามารถตนเองและการหล่อหลอมเป้าหมายใฝ่สัมฤทธิ์ในการออกกำลังกาย ส่งผลต่อพฤติกรรมการออกกำ ลังกายอย่างต่อเนื่องของประชาชนอย่างไม่มีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 2. เพศชาย และเพศหญิง มีระดับเจตคติการรับรู้ความสามารถตนเองแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์การหล่อหลอมเป้าหมายใฝ่สัมฤทธิ์และความต่อเนื่องของการออกกำลังกายแตกต่างกันอย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 โดยเพศชายมีระดับของการรับรู้ความสามารถตนเองแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์การหล่อหลอมเป้าหมายใฝ่สัมฤทธิ์และความต่อเนื่องของการออกกำลังกายสูงกว่าเพศหญิงแต่พบว่า เพศหญิงมีระดับของเจตคติในการออกกำ ลังกายสูงกว่าเพศชาย 3. ประชาชนที่ออกกำลังกายในสวนสาธารณะและสถานออกกำลังกาย มีระดัยเจตคติ การหล่อหลอมเป้าหมายใฝ่สัมฤทธิ์และความต่อเนื่องของการออกกำลังกายแตกต่างกันอย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 โดยประชาชนที่ออกกำลังกายในสวนสาธารณะมีระดับเจตคติในการออกกำลังกาย และความต่อเนื่องของการออกกำลังกายสูงกว่าในสถานออกกำลังกายในทางตรงกันข้ามประชาชนที่ออกกำลังกายในสถานออกกำลังกายมีระดับการหล่อหลอมเป้าหมายใฝ่สัมฤทธิ์ในการออกกำลังกายสูงกว่าออกกำลังกายในสวนสาธารณะอย่างไรก็ตาม ระดับการรับรู้ความสามารถตนเองและแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ในการออกกำลังกายแตกต่างกันอย่างไม่มีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 4. ปัจจัยที่ร่วมทำนายพฤติกรรมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องของประชาชนในเขตภาคตะวันออกได้แก่ เจตคติ (X1 ) และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการออกกำลังกาย (X3 ) ซึ่งสามารถเขียนเป็นสมการถดถอยพหุคูณ แบบขั้นตอนจากคะแนนดิบ ดังนี้ Y^ = -112.586+16.199X1+ 16.604X3
dc.language.iso th
dc.publisher คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.rights มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.subject การออกกำลังกาย
dc.subject การออกกำลังกาย -- พฤติกรรม
dc.subject Health Sciences
dc.subject มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การออกกำลังกายและการกีฬา
dc.title ปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องของประชาชนในเขตภาคตะวันออก
dc.title.alternative Psychologicl fctor ffecting continuity of exercise behviour retention of people in estern region of thilnd
dc.type วิทยานิพนธ์/ Thesis
dc.description.abstractalternative The purpose of this study was to investigate psychological factors affecting continuity of exercise behavior retention of people in eastern Thailand. The participants were 390 volunteers, with the minimum age of 18 (227 males and 162 females), who exercise in fitness centers or public parks. The statistical methods used to for quantitative analysis were percentage, means, standard deviations, independent t-test, One-way ANOVA, and Stepwise Multiple Regression analysis. The results were as follows: 1. Psychological factors affecting the continuity of exercise behavior retention of people in the east of Thailand were attitudes and achievement motivation (p ≤ .05). Perceived self-efficacy and achievement goal orientation were not significant (p ≤ .05). 2. Exercise continuity of people with different gender has statistically different attitudes, perceived self-efficacy, achievement motivation, achievement goal orientation and continuity of exercise behavior at p ≤ .05. Male exerciser perceived self-efficacy, achievement motivation, achievement goal orientation and continuity of exercise behavior which is shown at high level than females. However, female exercisers’ attitudes were at higher level, comparing to male exercisers. 3. Exercisers working out at different places have significantly different attitudes. Achievement goal orientation in exercise and continuity of exercise behavior (p ≤ .05). In fact, people who exercise in public parks show higher level of attitudes and continuity of exercise behavior than those who work out at fitness centers. On the contrary, exercising at fitness centers shows higher of achievement goal orientation in exercise than those who exercise at public parks. However, perceived self-efficacy and achievement motivation in exercise were not significant (p ≤ .05). 4. Attitudes (X1 ) and achievement motivation (X3 ) can predict the continuity of exercisers’ exercise behavior retention and can be written in the form of Raw Score Regression equation: Y^= -112.586 + 16.199X1+ 16.604X3
dc.degree.level ปริญญาเอก
dc.degree.discipline วิทยาศาสตร์การออกกำลังกายและการกีฬา
dc.degree.name ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
dc.degree.grantor มหาวิทยาลัยบูรพา


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account