ผลของความแตกต่างทางเพศและบุคลิกภาพในผู้ใหญ่ตอนต้นที่มีต่อคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพล : การศึกษาเชิงพฤติกรรมและคลื่นไฟฟ้าสมองสัมพันธ์กับเหตุการณ์

ศลาฆนันท์ หงษ์สวัสดิ์

DSpace Home
→
College of Research Methodology and Cognitive Science
→
วิทยานิพนธ์ (Theses)
→
View Item

dc.contributor.advisor	พีร วงศ์อุปราช
dc.contributor.advisor	ภัทราวดี มากมี
dc.contributor.advisor	เสรี ชัดแช้ม
dc.contributor.author	ศลาฆนันท์ หงษ์สวัสดิ์
dc.contributor.other	มหาวิทยาลัยบูรพา. วิทยาลัยวิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา
dc.date.accessioned	2023-05-12T06:15:03Z
dc.date.available	2023-05-12T06:15:03Z
dc.date.issued	2561
dc.identifier.uri	https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/7971
dc.description	ดุษฎีนิพนธ์ (ปร.ด.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
dc.description.abstract	การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบกิจกรรมการทดลองมองคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพลในผู้ใหญ่ตอนต้น ศึกษาอารมณ์ด้านการมีอิทธิพลในเชิงพฤติกรรม คลื่นไฟฟ้าสมอง และเครือข่ายการเชื่อมโยงการทำงานของสมอง ขณะมองคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพล จำแนกตามเพศและบุคลิกภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยบูรพา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 80 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยกิจกรรมการทดลองมองคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพลในผู้ใหญ่ตอนต้น มาตรวัดอารมณ์ความรู้สึกด้านการมีอิทธิพล และเครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าสมอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ Two-way ANOVA ผลการวิจัยปรากฏว่า 1. กิจกรรมการทดลองมองคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพลในผู้ใหญ่ตอนต้น ประกอบด้วย กิจกรรม 2 ชุด ชุดละ 30 สิ่งเร้า จำแนกตามลักษณะอารมณ์ คือ ลักษณะกลัวและลักษณะไม่กลัว 2. ผู้ใหญ่ตอนต้นที่มีเพศและบุคลิกภาพต่างกัน มีอารมณ์ด้านการมีอิทธิพล ลักษณะกลัว และลักษณะไม่กลัวไม่ต่างกัน แต่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศกับบุคลิกภาพ ขณะมองคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพล ลักษณะกลัวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยเพศชายที่มีบุคลิกภาพเปิดเผย รับรู้อารมณ์ด้านการมีอิทธิพล ลักษณะกลัว มากกว่าเพศชายที่มีบุคลิกภาพกลาง ๆ และเพศหญิงที่มีบุคลิกภาพเปิดเผยรับรู้อารมณ์ด้านการมีอิทธิพล ลักษณะกลัว มากกว่าเพศหญิงที่มีบุคลิกภาพกลาง ๆ 3. คลื่นไฟฟ้าสมองของผู้ใหญ่ตอนต้นขณะมองคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพลลักษณะกลัว และลักษณะไม่กลัว ระหว่างเพศชายกับเพศหญิง แตกต่างกันที่บริเวณเปลือกสมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) ที่ตำแหน่ง F3 และ FZ บริเวณเปลือกสมองส่วนกลาง (Central Lobe) ที่ตำแหน่ง FC3 FC4 C3 และ CZ บริเวณเปลือกสมองส่วนบน (Parietal Lobe) ที่ตำแหน่ง CP3 CP4 P3 และPZ บริเวณเปลือกสมองกลีบขมับ (Temporal Lobe) ที่ตำแหน่ง FT7 T7 T8 TP7 TP8 P7 และ P8 บริเวณเปลือกสมองส่วนท้ายทอย (Occipital Lobe) ที่ตำแหน่ง O1 และ O2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างบุคลิกภาพเปิดเผยกับกลาง ๆ ไม่แตกต่างกัน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศกับบุคลิกภาพแตกต่างกันที่บริเวณเปลือกสมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) ที่ตำแหน่ง F8 และบริเวณเปลือกสมองส่วนกลาง (Central Lobe) ที่ตำแหน่ง FC4 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. เครือข่ายการเชื่อมโยงการทำงานของสมองในผู้ใหญ่ตอนต้นขณะมองคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพลลักษณะกลัว เพศชายมีความหนาแน่นของเครือข่ายน้อยกว่าเพศหญิง มีการเชื่อมโยงระหว่างโหนดยาวกว่า มีประสิทธิภาพเครือข่ายเท่ากับเพศหญิง ลักษณะไม่กลัว เพศชายมีความหนาแน่นเครือข่ายมากกว่าเพศหญิง มีการเชื่อมโยงระหว่างโหนดสั้นกว่า และมีประสิทธิภาพเครือข่ายดีกว่าเพศหญิง
dc.language.iso	th
dc.publisher	วิทยาลัยวิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.rights	มหาวิทยาลัยบูรพา
dc.subject	อารมณ์ -- การทดสอบ
dc.subject	มหาวิทยาลัยบูรพา -- สาขาวิชาการวิจัยและสถิติทางวิทยาการปัญญา
dc.title	ผลของความแตกต่างทางเพศและบุคลิกภาพในผู้ใหญ่ตอนต้นที่มีต่อคำภาษาไทยที่เร้าอารมณ์ด้านการมีอิทธิพล : การศึกษาเชิงพฤติกรรมและคลื่นไฟฟ้าสมองสัมพันธ์กับเหตุการณ์
dc.title.alternative	The effect of gender nd personlity differences in young dults on the emotionl dominnce of thi words: behviorl nd event-relted potentil study
dc.type	วิทยานิพนธ์/ Thesis
dc.description.abstractalternative	The objectives of this research were to design emotional dominance of Thai words task for young adults and then to study emotional dominance in both behavioral and neurophysiological levels (brainwaves and brain functional connectivity network) classified by gender and personality. Participants were 80 undergraduate students from Burapha University in the academic year 2017. Research instruments included the emotional dominance Thai words, the Self-Assessment Mankin (SAM) for the dominance dimension, and the NeuroScan system. Data were analyzed using a two-way analysis of variance. The results showed that: 1. The tasks consisted of Thai words and composed of in two blocks: uncontrolled and controlled. Each block contained 30 stimuli. 2. Gender and personality differences did not affect emotional dominance neither on uncontrolled nor controlled emotions. However, there was a significant interaction effect between gender and personality on uncontrolled emotion (p<.05) and a post hoc analysis revealed that males with an extravert personality had a greater uncontrolled emotional dominance than did males with the ambivert personality type and females with the extravert personality had a greater uncontrolled emotional dominance than did females with ambivert personality type. 3. The brainwaves in young adults while undertaking the tasks were significantly different (p<.05) between genders at the frontal electrode sites: F3 and FZ, the central electrode sites: FC3, FC4, C3, and CZ, the temporal electrode sites: FT7, T7, T8, TP7, TP8, P7, and P8, and the occipital electrode sites: O1 and O2. There was an interaction effect between gender and personality on brainwaves at the frontal electrode site F8, and the central electrode site FC4. 4. The brain functional connectivity network in young adults while undertaking the tasks in uncontrolled condition, males had a lower network density than females, a longer link between nodes, and had equivalence in network performance when compared to females. In controlled condition, males had a more network density than females, a shorter link between nodes, and a better network performance than females.
dc.degree.level	ปริญญาเอก
dc.degree.discipline	การวิจัยและสถิติทางวิทยาการปัญญา
dc.degree.name	ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
dc.degree.grantor	มหาวิทยาลัยบูรพา