Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาและเปรียบเทียบระดับความรู้ ทัศนคติและการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพ ที่สถานภาพพ้นฐานต่างกัน ตลอดจนศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ และภูมิหลังของพยาบาลวิชาชีพ ตัวอย่างประชากรคือ พยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ จำนวน 500 คน เครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบที่ตรงตามเนื้อหา และความเที่ยงมาแล้ว การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ความถี่ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t test) การหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และค่าสัมประสิทธิ์
สหสัมพันธ์พหุคูณ (multiple regression)
ข้อค้นพบที่สำคัญ
1.ความรู้เรื่องโรคเอดส์ของพยาบาลวิชาชีพ อยู่ในระดับ “ปานกลาง” ด้านทัศนคติอยู่ในระดับ “ปานกลาง” และด้านการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์อยู่ในระดับ “ดี”
2.พยาบาลที่แต่งงานแล้ว ให้การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ ดีกว่า พยาบาลโสดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แต่ด้านความรู้ และทัศนคติต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ของพยาบาลโสด และแต่งงานแล้ว ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับพยาบาลที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ มีความรู้ ทัศนคติ และการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ ไม่มีความสัมพันธ์กับความรู้ของพยาบาลวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 อย่างไรก็ตาม การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์มีความสัมพันธ์ทางบวกกับทัศนคติ อายุ และระยะเวลาในการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.ทัศนคติและอายุของพยาบาลวิชาชีพ สามารถร่วมกันพยากรณ์พฤติกรรมการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (R2 = .070) โดยเขียนเป็นสมการในรูปคะแนนมาตรฐานได้ดังนี้
z^ (การดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์) = .238 * (ทัศนคติของพยาบาลวิชาชีพ) + .115 * (อายุของพยาบาลวิชาชีพ)