DSpace Repository

การวิเคราะห์ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศต่อทรัพยากรน้ำ เมืองและการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ภาคตะวันออกด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ

Show simple item record

dc.contributor.author ภัทราพร สร้อยทอง
dc.contributor.author กรรณิการ์ จันทร์ชิดฟ้า
dc.contributor.author สุชาติ ชายหาด
dc.contributor.author นราธิป เพ่งพิศ
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะภูมิสารสนเทศศาสตร์
dc.date.accessioned 2020-04-15T05:49:30Z
dc.date.available 2020-04-15T05:49:30Z
dc.date.issued 2562
dc.identifier.uri http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3888
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ลักษณะสภาพภูมิอากาศ โดยพิจารณาถึงปัจจัยปริมาณ และความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินต่อความเปราะบางของเมืองในภาค ตะวันออก การศึกษานี้การเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ ที่ดินและลักษณะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อทรัพยากรน้ำในภาคตะวันออก โดย ประยุกต์ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมรายละเอียดสูงในพื้นที่ภาคตะวันออก ผลการวิจัยพบว่า สถิติช่วงปี 2550 ถึง 2560 แสดงให้เห็นว่าการใช้ที่ดินมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีการลดลงของพื้นที่เกษตรกรรม (62.21 % เป็น 61.59 %) พื้นที่เมืองและสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้น (6.01 % เป็น 7.62%) การเปลี่ยนแปลง การใช้ประโยชน์ที่ดินส่งผลต่ออุณหภูมิพื้นผิวและทรัพยากรน้ำและปริมาณน้ำฝน โดยจากสถิต อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงปี 2554 และ 2560 คือ 28.51°C และ 29.27°C ตามลำดับ อย่างไรก็อุณหภูมิที่ สูงขึ้นในเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม จุดร้อนสูงสุดที่วัดได้อยู่ระหว่าง 38.1-56 °C ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงกลางเดือนเมษายนในบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเท่านั้น โดยส่วนมากจะเป็น พื้นที่เมืองและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะพื้นที่เมือง 6 พื้นที่ คือ พื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี (41.3°C) และ พื้นที่อำเภอเมือง (40.8°C) จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี (38.72°C) พื้นที่อำเภอ เมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา (39.68°C) พื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง (38.73°C) และพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี (37.63°C) ลักษณะของอากาศร้อนที่สุดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของพื้นที่ที่เป็นเมืองนี้ เป็นผลจากการที่เขตเมืองมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเทียบกับพื้นที่การเกษตรโดยรอบ จากการที่ภาค ตะวันออกของไทยจึงต้องเผชิญกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองและอุตสาหกรรมในช่วงมากกว่า สี่ทศวรรษที่ผ่านมา ในอีกด้านหนึ่งพื้นที่ที่เป็นเมืองจึงเป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบางและความเสี่ยงต่อ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากกว่าพื้นที่ชนบท เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่าง จำนวนประชากร ซึ่งพื้นที่เมืองเป็นพื้นที่รวมตัวขนาดใหญ่ของประชากร การจัดการเมืองเพื่อรองรับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายต่อภาคส่วนต่าง ๆ ทิศทางการพัฒนาของเมือง มีความสำคัญต่อการฟื้นฟูภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต th_TH
dc.description.sponsorship งานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากงบประมาณเงินรายได้ (เงินอุดหนุนจากรัฐบาล) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 th_TH
dc.language.iso th th_TH
dc.publisher คณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา th_TH
dc.subject ทรัพยากรน้ำ th_TH
dc.subject เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ th_TH
dc.subject ภูมิสารสนเทศศาสตร์ th_TH
dc.subject สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์ th_TH
dc.title การวิเคราะห์ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศต่อทรัพยากรน้ำ เมืองและการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ภาคตะวันออกด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ th_TH
dc.title.alternative Analysis of Climate Change Impacts on Water Resource, Urban, and Human Settlements in Eastern Thailand: Geo-Informatics Approach for Climate Change Studies en
dc.type Research th_TH
dc.author.email phattraporn@buu.ac.th th_TH
dc.year 2562 th_TH
dc.description.abstractalternative This research aims to analyze climate characteristics by considering the situation of water resources which reflects the impact of climate change and land use to city’s vulnerability in the eastern region. This study shows the comparing of the linkage between land use changes and climate change characteristics that affect water resources in the region, by using the simplified normalized difference vegetation index method, which the special analysis are particularized by Remote Sensing (RS) on the visible (band 5, 6 and 4) and thermalinfrared (TIR) channel (band 10) that located in the Landsat-8 Thematic Mapper (TM) sensor and Geographic Information System (GIS). The result demonstrative significant increasing trends in temperature and change of land use cover and utility in the eastern. Data from year 1997 to 2017 show land use change pattern by the decreasing of agricultural area (62.21 % to 61.59 %) whereas there are increasing of building area/urban (6.01 % to 7.62%). The change of Land use types effected to land surface temperature (LST) and water resources and rainfalls, an average LST of the eastern between 2011 and 2017 is about 28.51°C and 29.27°C. However, temperatures rising only during February to May, the hotspot of LST has its maximum during 38.1-56 °C that located in some areas by mid April in many eastern provinces mostly in some part of urban and industrial area, especially in six areas: Kabin Buri District (41.30°C), and Muang District (40.80°C), Prachinburi province; Muang District, Chonburi province (38.72°C); Muang District, Chachoengsao province (39.68°C); Muang District, Rayong province (38.73°C); Muang District, Chanthaburi province (37.63°C). This hot weather characteristic has increased continuously in this urban area. As a result of the higher urban temperatures compared to the surrounding agricultural areas, therefore, the eastern of Thailand is faced with the rapid expansion of cities and industries over the past four decades. On the other hand, urban areas are more vulnerable and risk to the effects of climate change than rural areas. Due to the relationship between the larger population in the city, how city management is challenge to reduce climate change. en


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account