Abstract:
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยคือ ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณกรดแอสคอร์บิคและระดับสีของยาเม็ด การเปลี่ยนแปลงของสีเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งของการเสื่อมสภาพของยาเม็ด การศึกษาทำการเก็บยาเม็ดวิตามินซีที่ผลิตโดย 3 บริษัทที่แตกต่าง (A, B และ C) ภายใต้สภาวะเร่ง (40±2°C, 75±5%RH) เป็นเวลา 70 วัน ทำการวิเคราะห์หาปริมาณกรดแอสคอร์บิคโดยเครื่องโครมาโตกราฟฟีเหลวสมรรถนะสูง ทำการประเมินค่าระดับสีของเม็ดยาโดยเทคนิคการประมวลผลด้วยภาพดิจิตอล ผลการทดลองพบว่าปริมาณกรดแอสคอร์บิคของยาเม็ด A, B และ C น้อยกว่า 90% ของปริมาณที่ระบุบนฉลากหลังจากเก็บยาเม็ดในตู้สำหรับศึกษาความคงตัว เป็นระยะเวลา 70 วัน โดยปริมาณกรดแอสคอร์บิคของยาเม็ด A ลดลงเท่ากับ 76.92 % หลังจากเก็บเป็นระยะเวลา 21 วัน การศึกษาระดับสีของเม็ดยาพบว่าในสภาวะเร่ง ระดับสีของยาเม็ดลดลงเมื่อเก็บเป็นระยะเวลานานขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณกรดแอสคอร์บิคกับระดับสี พบว่าสำหรับยาเม็ด A มีค่า R2 ของสมการความสัมพันธ์เท่ากับ 0.9297 ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ที่สูง ยาเม็ด B และ C มีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ 0.7017 และ 0.6945 ตามลำดับ แสดงถึงความสัมพันธ์ระดับปานกลาง ผลการศึกษาแสดงว่าการวิเคราะห์ค่าระดับสีจากการประมวลผลด้วยภาพดิจิตอลสามารถคัดกรองเบื้องต้นในการพิจารณาการเสื่อมสภาพของยาเม็ดวิตามินซีได้