DSpace Repository

การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพเกี่ยวกับการป้องกันตนเองเพื่อลดการรับสัมผัสมลพิษของแรงงาน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง

Show simple item record

dc.contributor.author นิภา มหารัชพงศ์
dc.contributor.author ยุวดี รอดจากภัย
dc.contributor.author สุนิศา แสงจันทร์
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะสาธารณสุขศาสตร์
dc.date.accessioned 2020-02-16T14:09:09Z
dc.date.available 2020-02-16T14:09:09Z
dc.date.issued 2561
dc.identifier.uri http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3779
dc.description.abstract ปัจจุบันปัญหามลพิษทางอากาศที่ผลกระทบต่อสุขภาพต่อสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและยากที่จะหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในเขตควบคุมมลพิษ ความรอบรู้สุขภาพจึงมีความสำคัญในการส่งเสริมให้บุคคลสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ ศึกษาวิจัยกึ่งทดลอง โดยดำเนินการทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนหลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพเกี่ยวกับการป้องกันตนเองเพื่อลดการรับสัมผัสมลพิษแรงงาน โดยสุ่มแรงงาน จำนวน 93 คนเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการป้องกันตนเองจากการได้รับมลพิษทางอากาศ จำนวน 3 กิจกรรม คือ รอบรู้เรื่องมลพิษทางอากาศ การป้องกันตนเองจากมลพิษทางอากาศในภาวะปกติ และแนวทางการป้องกันตนเองสาหรับประชาชนเพื่อลดการรับสัมผัสมลพิษในเหตุฉุกเฉินทางสารเคมี เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณาโดยใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าต่าสุด-สูงสุด และการวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ย โดยใช้สถิติ Paired samples t-test จากผลการศึกษาพบว่า หลังการทดลองแรงงานมีความรอบรู้สุขภาพเกี่ยวกับ การป้องกันตนเองเพื่อลดการสัมผัสมลพิษเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01) ทั้งความรอบรู้โดยรวม และความรอบรู้ในด้าน ความรู้ ความเข้าใจ ด้านการเข้าถึงข้อมูลและบริการสุขภาพ ด้านการสื่อสาร และด้านการรู้เท่าทัน สื่อ ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันตนเองเพื่อลดการรับสัมผัสมลพิษ ภายในกลุ่ม พบว่า หลังการทดลองพฤติกรรมการป้องกันตนเองเพื่อลดการรับสัมผัสมลพิษ โดยรวมของแรงงานมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.001) ผลการวิจัยครั้งนี้สรุปได้ว่าการส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพส่งผลให้แรงงานมีการป้องกันการรับสัมผัสมลพิษเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มที่มีความไว เพื่อลดการรับสัมผัสมลพิษต่อไป th_TH
dc.description.sponsorship งานวิจัยฉบับนี้ได้รับสนับสนุนการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้ จากเงินอุดหนุนรัฐบาล(งบประมาณแผ่นดิน)ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 th_TH
dc.publisher คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา th_TH
dc.subject มลพิษ th_TH
dc.subject ผู้ใช้แรงงาน th_TH
dc.subject การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง th_TH
dc.subject สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ th_TH
dc.title การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพเกี่ยวกับการป้องกันตนเองเพื่อลดการรับสัมผัสมลพิษของแรงงาน ในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง th_TH
dc.title.alternative The development model for promoting health literacy related to self-protection of air pollution exposure among worker in the maptaphut pollution control zone, rayong province en
dc.type Research th_TH
dc.author.email mnipa@yahoo.com th_TH
dc.author.email yuvadee@buu.ac.th th_TH
dc.author.email sunisas@buu.ac.th th_TH
dc.year 2561 th_TH
dc.description.abstractalternative Nowaday, air pollution is increasing dramatically increased and avoiding exposure to pollution is especially difficult for people living in pollution-controlled areas. Health literacy plays an important role in encouraging people to promote and maintain good health. The purpose of this quasi-study was to study the effect of promoting health literacy related to self-protection of air pollution exposure among worker in the maptaphut pollution control zone, rayong province. Ninety three workers were selected and received health literacy promotion program which consist of 3 activities: health literacy regarding air pollution, self-protection behaviours in reducing exposure and protecting themselves from chemical accident. Questionnaire including 1) general information, 2) health literacy, and 3) self-protection behaviours in reducing the exposure were used. The collected data were consequently analyzed for frequency, percentages, means, and standard deviations; and paired samples t-test. The results showed that after intervention health literacy of workers were statistically increase (P<0.01) in the aspects of total health literacy, cognitive, accessing to health care and health information, communication skills, and media literacy. And, self-protection of air pollution exposure of worker also statistically increase after intervention (p<0.001). The results of the research concluded that promoting health knowledge about protecting oneself from exposure to air pollution among workers can increase the level of self-protection from air pollution among workers en


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account