Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินศักยภาพทำเลที่เหมาะสมของตำแหน่งโรงแรม บริเวณชายฝั่งตะวันออก โดยประยุกต์แบบจำลองคณิตศาสตร์และข้อมูลภูมิสารสนเทศ และ 2) ประเมิน และจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนากลยุทธ์ในการส่งเสริมธุรกิจของกลุ่มโรงแรมในพื้นที่ศึกษา ภายใต้
การประยุกต์ภูมิสารสนเทศและเทคโนโลยี i-Hotel โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างการ วิจัยโดยใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และการวิเคราะห์ค่าถ่วงน้ำหนักปัจจัยแบบลำดับขั้น (AHP) เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพทำเลที่เหมาะสมของตำแหน่งโรงแรม บริเวณชายฝั่งตะวันออก การวิจัยเชิงปริมาณได้ ทำการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจากโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่เหมาะสมระดับมาก ปานกลาง และน้อย จ านวน 156 โรงแรม เพื่อเก็บข้อมูลด้านลักษณะทั่วไปของโรงแรม ด้านปัจจัยที่มีผลต่อทำเลที่ตั้งธุรกิจโรงแรม และด้านการประยุกต์เทคโนโลยี i-Hotel ในการบริหารจัดการโรงแรม และการวิจัยเชิงคุณภาพได้ทำการ สัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้บริหารโรงแรม จำนวน 18 คน เพื่อหาแนวทางกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจโรงแรม ภายใต้การประยุกต์ภูมิสารสนเทศและเทคโนโลยี i-Hotel ผลการศึกษาพบว่า พื้นที่ที่มีศักยภาพทำเลเหมาะสมสูง มีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 7.53 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยโรงแรมที่ถูกประเมินอยู่ในเขตศักยภาพทำเลที่เหมาะสมระดับสูงมีทั้งหมด 99 โรงแรม อยู่ในเขตชายฝั่งจังหวัดชลบุรี จำนวน 58 โรงแรม จังหวัดระยอง จำนวน 41 โรงแรม พื้นที่ที่มีศักยภาพทำเล เหมาะสมปานกลาง มีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 58.12 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยโรงแรมที่ถูกประเมินอยู่ในเขต ศักยภาพทำเลที่เหมาะสมระดับปานกลางมีทั้งหมด 154 โรงแรม อยู่ในเขตชายฝั่งจังหวัดชลบุรี จำนวน 32 โรงแรม จังหวัดระยอง จำนวน 47 โรงแรม จังหวัดจันทบุรี จำนวน 57 โรงแรม และจังหวัดตราด จำนวน 18 โรงแรม และพื้นที่ที่มีศักยภาพทำเลเหมาะสมต่ำ มีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 34.35 ของพื้นที่ ทั้งหมด โดยโรงแรมที่ถูกประเมินอยู่ในเขตพื้นที่ศักยภาพทำเลที่เหมาะสมระดับต่ำมีทั้งหมด 4 โรงแรม ซึ่งอยู่ในเขตชายฝั่งจังหวัดตราดทั้งหมด ด้านการประยุกต์เทคโนโลยี i-Hotel ในการบริหารจัดการโรงแรมแถบชายฝั่งตะวันออก พบว่า โรงแรมกลุ่มตัวอย่างมีการประยุกต์เทคโนโลยี i-Hotel ในด้านการตลาด (4P) มากที่สุด (× ̅ = 3.24) ซึ่งมีความสำคัญระดับปานกลาง รองลงมาเป็นด้านการจัดการองค์กร (× ̅ = 3.18) ซึ่งมี ความสำคัญระดับปานกลาง อันดับ 3 เป็นด้านการพัฒนาเทคโนโลยี i-Hotel ในการขับเคลื่อนประเทศ ไทย 4.0 (× ̅ = 3.12) ซึ่งมีความสำคัญระดับปานกลาง อันดับ 4 เป็นด้านการจัดการทรัพยากร (× ̅ = 3.07) ซึ่งมีความสำคัญระดับปานกลาง และอันดับสุดท้ายเป็นด้านการประสานงานกับหน่วยงาน ภายนอก (× ̅ = 2.95) ซึ่งมีความสำคัญระดับปานกลาง โดยจากผลการวิจัยพบว่าจากการนำกลยุทธ์ i-Hotel ไปใช้ในธุรกิจโรงแรมของผู้ประกอบการ สามารถทำให้ผลประกอบการของโรงแรมดีขึ้น มีผู้ใช้บริการมากขึ้น และสร้างความความประทับใจให้ ผู้ใช้บริการบอกต่อ หรือกลับมาพักซ้ำ