dc.contributor.author |
ลลิตา บุญงาม |
|
dc.contributor.author |
ชนัญชิดาดุษฎี ทูลศิริ |
|
dc.contributor.author |
สุวรรณา จันทร์ประเสริฐ |
|
dc.contributor.other |
มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์ |
|
dc.date.accessioned |
2019-03-25T09:23:27Z |
|
dc.date.available |
2019-03-25T09:23:27Z |
|
dc.date.issued |
2560 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3415 |
|
dc.description.abstract |
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการออกกำลังกายแบบชี่กงต่อระดับความดัน
โลหิตของสตรีกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี กลุ่มตัวอย่างได้แก่ สตรีกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 60 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการออกกำลังกายแบบชี่กง ระยะเวลา 8 สัปดาห์ ทุกวันจันทร์-วันพฤหัสบดี ครั้งละ 60 นาที ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับความรู้ในการปฏิบัติ
ตัวตามปกติ ประเมินระดับความดันโลหิตหลังสิ้นสุดการทดลอง 1 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองประกอบด้วย โปรแกรมการออกกำลังกายแบบชี่กง คู่มือการออกกำลัง กายแบบชี่กง และเครื่องวัดความดันโลหิตแบบสอดแขน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามพฤติกรรมการออกกำลังกายแบบชี่กง ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของ
ครอนบาคเท่ากับ .83 และแบบบันทึกระดับความดันโลหิต วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม
ผลการวิจัยพบว่าภายหลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมอยู่ในระดับดี (M = 2.88, SD
= 0.24) และเมื่อควบคุมอิทธิพลของระดับความดันโลหิต
ซีสโตลิคและไดแอสโตลิค ก่อนการทดลองกล่มุ ทดลองมีค่าเฉลี่ยระดับความดันโลหิตซีสโตลิคและไดแอสโตลิคต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (F(1, 57) = 196.03,
p < .001; F(1, 57) = 67.36, p < .001 ตามลำดับ) จากผล
การวิจัยมีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลที่ปฏิบัติงานในหน่วย
บริการระดับปฐมภูมิสามารถนำรูปแบบการออกกำลังกาย
แบบชี่กงไปประยุกต์ใช้กับกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงใน
ชุมชน เพื่อควบคุมป้องกัน การเกิดโรคความดันโลหิตสูง
และลดจำนวนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ต่อไป |
th_TH |
dc.language.iso |
th |
th_TH |
dc.publisher |
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา |
th |
dc.subject |
การออกกำลังกาย |
th_TH |
dc.subject |
ความดันเลือดสูง - - การรักษาด้วยการออกกำลังกาย |
th_TH |
dc.subject |
ชี่กง |
th_TH |
dc.title |
ผลของโปรแกรมการออกกำลังกายแบบชี่กงต่อระดับความดันโลหิตของสตรี กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี |
th_TH |
dc.title.alternative |
Effects of the Qigong exercise program on blood pressure levels among prehypertensive women in Meuang district, Sing Buri province |
en |
dc.type |
บทความวารสาร |
th_TH |
dc.issue |
1 |
|
dc.volume |
25 |
|
dc.year |
2560 |
|
dc.description.abstractalternative |
The purpose of this research was to examine the effects of the qigong exercise program on blood pressure levels among prehypertensive
women in Meuang district, Sing Buri province. A multistage random sampling method was used to recruit 60 women who were at risk of
hypertension and who met the inclusion criteria.
Then they were randomly assigned into either the
experimental (n = 30) or the control (n = 30). The
experimental group received the qigong exercise
program for 8 weeks, Monday-Thursday for 60
minutes per day, whereas the control group
received a routine service from the hospital. Blood
pressure level was measured one week after end
of the experiment. Research experimental
instruments included the qigong exercise program,
handbook for the qigong exercise program and.
arm blood sphygmomanometers. Data was
collected by demographic questionnaires and
questionnaires to measure qigong exercise
behavior with Cronbach’s alpha coefficient of
.83 and a blood pressure record form. Data was
analyzed by using descriptive statistics and
analysis of covariance (ANCOVA).
The results revealed that after experiment,
the experimental group had mean scores of qigong
exercise behavior at good levels (M = 2.88,
SD = 0.24). The experimental group had lower
adjusted means scores of systolic and diastolic
blood pressure than those of the control group
at the significance (F(1, 57) = 196.03, p < .001;
F(1, 57) = 67.36, p < .001 respectively). The findings
suggest that nurses and other health professions
can use this qigong exercise program among
people at risk of hypertension in the community
in order to prevent hypertension, which
consequently leads to decreases in a number of
hypertension patients. |
en |
dc.journal |
วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา = Journal of faculty of nursing Burapha University |
|
dc.page |
82-94. |
|