DSpace Repository

การพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทางการพยาบาลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ: กรณีศึกษา พื้นที่ภาคตะวันออก

Show simple item record

dc.contributor.author สมสมัย รัตนกรีฑากุล
dc.contributor.author ยุวดี ลีลัคนาวีระ
dc.contributor.author สุวรรณา จันทร์ประเสริฐ
dc.contributor.author นิสากร กรุงไกรเพชร
dc.contributor.author เจนจิรา เจริญการไกร
dc.contributor.author อริสรา ฤทธิ์งาม
dc.contributor.author อังคนา จงเจริญ
dc.contributor.author ศิริยุพา สนั่นเรืองศักดิ์
dc.contributor.author ชรัญญากร วิริยะ
dc.contributor.author ตติรัตน์ เตชะศักดิ์ศรี
dc.contributor.author สุธารัตน์ ชำนาญช่าง
dc.contributor.author วชรีกร อังคประสาทชัย
dc.contributor.other มหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์
dc.date.accessioned 2019-03-25T09:23:26Z
dc.date.available 2019-03-25T09:23:26Z
dc.date.issued 2560
dc.identifier.uri http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3412
dc.description.abstract การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทางการพยาบาลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพบนพื้นฐานนวัตกรรมการบริการสุขภาพของพื้นที่ และศึกษาผลการทดลองใช้หลักสูตรของศูนย์เรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งเป็นพยาบาล บุคลากรสุขภาพ และอาสาสมัครที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมบริการสุขภาพ จำนวน 6 แห่ง ในจังหวัดชลบุรี ตราด และสระแก้วซึ่งได้รับกิจกรรมการพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ กลุ่มที่สองเป็นพยาบาล จำนวน 35 คน และนิสิตพยาบาลชั้นปีที่ 4 จำนวน 31 คน ที่สมัครใจเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้สาระเนื้อหาและกิจกรรมของศูนย์เรียนรู้ทั้ง 6 แห่ง โดยแต่ละคนจะได้รับการอบรมแนวคิดทั่วไปร่วมกันที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และเข้าเรียนรู้ที่ศูนย์เรียนรู้คนละ 2 แห่งแห่งละ 2 วัน รวมคนละ 5 วัน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย(1) กิจกรรมการพัฒนาศูนย์ หนังสือ “7 ชุดการเรียนรู้การพยาบาลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ” คู่มือการเรียนรู้ยุทธศาสตร์การสร้างเสริมสุขภาพ หลักสูตรการเรียนรู้ของแต่ละศูนย์ คู่มือผู้สอน คู่มือผู้เรียนรู้ และ (2) แบบประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย แบบทดสอบความร้เูกี่ยวกับการใช้ยุทธศาสตร์การสร้างเสริมสุขภาพ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับศูนย์เรียนรู้ และแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือ “7 ชุดการเรียนรู้ การพยาบาลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ” วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัย พบว่า การพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทั้ง 6 แห่งโดยการวิเคราะห์ศักยภาพและเนื้อหา การสร้างคุณค่าและให้การยอมรับร่วมกัน การจัดทำหลักสูตรเนื้อหากิจกรรมและกำหนดการ การพัฒนาศักยภาพในการถ่ายทอดเนื้อหาการเตรียมสถานการณ์ การจัดทำสื่อประกอบการเรียนรู้และการติดตามความพร้อม ผลการทดลองใช้หลักสูตรการเรียนรู้ พบว่า หลังการเรียนรู้ผู้ร่วมวิจัยมีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยุทธศาสตร์การสร้างเสริมสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 1.68, df = 57, p = .05) มีความคิดเห็นว่า ทุกศูนย์เรียนรู้เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติการสร้างเสริมสุขภาพในระดับมาก และมีความเห็นว่า หนังสือ “7 ชุดการเรียนรู้ การพยาบาลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ” สามารถนำไปบูรณาการและประยุกต์การสร้างเสริมสุขภาพในบริการสุขภาพทุกระดับในระดับมากข้อเสนอแนะจากการวิจัย ควรนำกระบวนการพัฒนานี้ไปใช้พัฒนาศูนย์เรียนรู้ของพยาบาลในการสร้างเสริมสุขภาพเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งและคุณภาพการพยาบาลต่อไป This research and development was todevelop nursing learning centers (NLCs) for healthpromoting based on area innovation, and to testthe NLC’s curriculum. There were 2 groups ofparticipants. The first group consisted of nurses,health staff and health care volunteers relatedwith 6 health innovations in Chon Buri, Trat andSa Kaeo provinces, which had developed to beNLC. The second group consisted of 35 nursesand 31 fourth year nursing students whovolunteered to test the NLCs’ curriculum, allparticipants learned general health promotionknowledge and knowledge management (KM)at the Faculty of Nursing, Burapha University, for 1 day after that each participant joined 2 NLCs’curriculum for 2 days of each, total of each participant was 5 days. The research instrumentconsisted of: (1) NLC developmental program,“7 series for nursing health promotion learning”,self - learning manual, and (2) NLC evaluationquestionnaires consisting of knowledge testing,the opinion about NLC and “7 series for nursinghealth promotion learning”. Content analysis,descriptive statistics and dependent t - test wereused for data analysis.Research results showed that thedevelopment process for 6 NLCs analyzed theinnovation potential, values and respect,curriculum building, prepared the staff andsituation, produced learning media, and confirmedall of the training feasibilities. After they joinedthe NLCs’ curriculum, the participants hadsignificantly more knowledge (t = 1.68, df = 57,p = .05). The opinions of the NLCs were the goodmodel for health promotion practice at highlevel, and “7 series for nursing health promotionlearning” applied for all levels of health promotionservice at a high level. The research resultssuggested that this developing process should beused to develop more nursing learning centers forhealth promotion for strengthening and quality ofnursing service. th_TH
dc.language.iso th th_TH
dc.subject การพยาบาล th_TH
dc.subject การส่งเสริมสุขภาพ th_TH
dc.subject การเรียนรู้แบบประสบการณ์ th_TH
dc.subject ศูนย์การเรียน th_TH
dc.subject สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ th_TH
dc.title การพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทางการพยาบาลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ: กรณีศึกษา พื้นที่ภาคตะวันออก th_TH
dc.type บทความวารสาร th_TH
dc.issue 1
dc.volume 25
dc.year 2560
dc.description.abstractalternative This research and development was todevelop nursing learning centers (NLCs) for healthpromoting based on area innovation, and to testthe NLC’s curriculum. There were 2 groups ofparticipants. The first group consisted of nurses,health staff and health care volunteers relatedwith 6 health innovations in Chon Buri, Trat andSa Kaeo provinces, which had developed to beNLC. The second group consisted of 35 nursesand 31 fourth year nursing students whovolunteered to test the NLCs’ curriculum, allparticipants learned general health promotionknowledge and knowledge management (KM)at the Faculty of Nursing, Burapha University, for 1 day after that each participant joined 2 NLCs’curriculum for 2 days of each, total of each participant was 5 days. The research instrumentconsisted of: (1) NLC developmental program,“7 series for nursing health promotion learning”,self - learning manual, and (2) NLC evaluationquestionnaires consisting of knowledge testing,the opinion about NLC and “7 series for nursinghealth promotion learning”. Content analysis,descriptive statistics and dependent t - test wereused for data analysis.Research results showed that thedevelopment process for 6 NLCs analyzed theinnovation potential, values and respect,curriculum building, prepared the staff andsituation, produced learning media, and confirmedall of the training feasibilities. After they joinedthe NLCs’ curriculum, the participants hadsignificantly more knowledge (t = 1.68, df = 57,p = .05). The opinions of the NLCs were the goodmodel for health promotion practice at highlevel, and “7 series for nursing health promotionlearning” applied for all levels of health promotionservice at a high level. The research resultssuggested that this developing process should beused to develop more nursing learning centers forhealth promotion for strengthening and quality ofnursing service. en
dc.journal วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา = Journal of faculty of nursing Burapha University
dc.page 12-24


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account